Sunday, August 30, 2009

10 อันดับ รถถังที่ดีที่สุดในโลก

วันนี้เราจะพาไปชม 10 อันดับ รถถังที่ดีที่สุดในโลกกัน
แต่วันนี้พิเศษตรงที่ เรานำมาให้ชมกันแบบรูปแบบวีดีโอกันเลย ไปชมกันได้เลย..


10 อันดับ รถถังที่ดีที่สุดในโลก - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

Saturday, August 22, 2009

10 อันดับ ปริศนาของโลก ที่ยังหาบทสรุปไม่ได้

อันดับ 10 : กะโหลกแก้ว



ปริศนาจากชาวมายัน กุญแจที่จะไขทุกคำตอบในโลกของเรา
กะโหลกแก้วคริสตัลลึกลับ 5 ใน 13 ทั้งหมดที่ถูกค้นพบ ถูกปลุกฟื้นตำนานเรื่องเล่า
ความเป็นไปของมนุษย์จากอดีตกาลสู่ภพหน้า แหล่งบรรจุสรรพสิ่งดั่งคำทำนาย
บัดนี้ยังคลุมเครือ ท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการ และเทคโนโลยีในอดีต
ไม่น่าเชื่อว่ากะโหลกแก้วจะสร้างขึ้นเองได้ หากเป็นความจริงอันชวนตะลึง!
ดั่งคำสันนิษฐานจากกะโหลกแก้วที่ค้นพบข้อมูลในนั้นจะเป็นตัวกลางเชื่อม
ต่อระหว่างคนอดีตสู่ คนยุคปัจจุบัน(ไปดูอินเดียน่าก็ได้มีเหมือนกัน)



อันดับ 9 : ภาพลายเส้นนาซคา



ลายเส้นพิศวงกับปริศนาจากภาพเหล่านี้ คือข้อกังขาของที่มาของเรื่อง
ทั้งหมด รูปภาพสัตว์ขนาดใหญ่ สุนัข แมงมุม ปลาวาฬ ดอกไม้ ลิง เป็ด
และนกกางปีกบนชายฝั่งทางใต้ของเปรู เป็นคำถามที่คนพื้นเมืองในอดีต
สร้างขึ้นเพื่อผูกปมเร ื่องให้ใคร่คิด บ้างเชื่อเรื่องทางเดินสู่แหล่งน้ำของชน
เผ่าต่างๆ บ้างก็เชื่อมนุษย์ต่างดาวใช้สถานที่แห่งนี้ลงจอดยานบิน
หรือมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินดาราศาสตร์ที่ซับซ้อน แม้จะหา
ข้อสรุปไม่ได้ สมมติฐานทั้งหมดก็ช่วยให้เราสนใจภาพวาดเหล่านั้นยิ่ง ขึ้น



อันดับ 8 : สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า



ความลึกลับ อาถรรพณ์ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นยังคงกล่าวขานถึงสู่หายนะ
กับสถานที่แห่งนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มฤตยูกลางมหาสมุทรแอตแลนติก
เหตุการณ์ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ความจริงที่เครื่องบิน เรือ ที่ผ่าน
บริเวณสามเหลี่ยมมรณะถูกดูดกลืนสูญหายไปอย่าง ไร้ร่องรอย โดย
ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่สภาพอากาศ และทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีข้อสรุป
คำตอบ หรือข้ออ้างให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแต่ปริศนาที่ยังค้างคา
ใจผู้คนจนถึงปัจจุบัน



อันดับ 7 : บพระบัญญัติศักดิ์สิทธิ์



คำตอบกับการเปิดทางสู่โลกพระเจ้า การค้นคว้าทางศาสนาครั้งยิ่งใหญ่
ปริศนาศิลาจารึกที่อยู่ข้างในบพระบัญญัติ คือ เครื่องมือติดต่อถึงพระเจ้า
โดยตรง คำสอนศาสนา บทองคำ วัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่องค์พระศาสดาตระหนักรู้
อาจรอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเปิดเผย แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้



อันดับ 6 : โอเรกอน วอร์เท็กซ์



พบกับสถานที่ที่ไม่ลึกลับแต่มันเป็นภาพลวงตาที่หาคำตอบไม่ได้ แนวแม่เหล็ก
ที่ไขว้กันอยู่ใต้พื้นดิน สนามพลังผิดปกติ เมื่อคุณเข้าไปยืนในนั้นจะรู้สึก เหมือ น
เป็นตัวประหลาด จุดที่แม่เหล็กไขว้ทับกัน คุณรู้สึกได้ถึงความกดดัน มันผลักกันและกัน
และหมุนรอบๆจนคุณทนไม่ไหว การยืด หรือหดตัวอย่างน่าใจหาย ไม่นับสถานที่แห่ง
นี้ยังมี โรงนาปริศนา ที่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ตัวของคุณจะเอียงลูก
กอล์ฟกลิ้งขึ้นเนินเองได้ ไม้กวาดตั้งได้เอง จนคุณอยากออกจากประสบการณ์แปลก
ประหลาดเหล่านี้สู่โลกแห่งความจริงที่ทุกอย่างพิสูจน์ได้



อันดับ 5 : นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน



คดีแห่งปริศนา ฆาตกรรมอำพราง เมื่อหลายปีก่อนถูกคลี่คลาย แต่เร็วๆนี้ถูก
นำมาสอบสวนใหม่ ชนวนที่ฆาตกรที่จับได้จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือ ? คดีที่โด่งดัง
ไปทั่วอ่าวแบ็คเบย์ในบอสตัน นักฆ่าใจโหด ข่มขืนและฆ่ารัดคอผู้หญิง 11 คน
ตายในบ้านตัวเอง คดีนี้ปิดฉากไปโดยตัวผู้รับสารภาพ อัลเบิร์ต เดอซาลโว
แต่ต่อมาคดีฆาตกรรมปริศนาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อครอบครัวของหญิง
1 ในผู้ตายพบหลักฐานที่ส่อพิรุธ การรื้อคดีเป็นได้แค่การบังหน้าของตำรวจ
ไม่มีความรับผิดชอบใดใดเพิ่มมากขึ้น เดอซาลโว จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือเปล่า
หรือว่านักฆ่าจอมโหดผู้นี้ยังคงลอยนวลต่อไป จนบัดนี้มันยังคงเป็นปริศนา ???



อันดับ 4 : สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส



บนโลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไป
เยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบล็อกเนสในสก็อตแลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดัง
เกี่ยวกับ สัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ประมาณ 15 – 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมา
ให้เห็นเป็นครั้งคราว หลายคนสนใจติดตามจับภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้ แล้วบางอย่าง
ก็เป็นจริง มีภาพของวัตถุลึกลับเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบชื่อก้อง นี้แต่ไม่สามารถ
พิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ถึงอย่างไรคนหลายคน ต่างเชื่อว่า เนสซี่ สัตว์ประ
หลาดแห่งล็อกเนส มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ คอยาว มีครีบ นั้นมีอยู่จริง
แต่เราจะได้เห็นหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเนสซี่เอง



อันดับ 3 : คร็อพเซอร์เคิล



วงกลมประหลาด รูปร่างแปลกๆหลายรูป ที่ยังคงต้องการคำตอบเหตุแห่งการ
เกิด ชาวเมืองเอฟเบอรี่คุ้นเคยกับมันดี วงขนาดใหญ่ ยาวกว่า 200 เมตร กว้าง
ร่วม 40 เมตร เกิดกระจัดกระจายไปทั่วทุ่งนา นำความเสียหายปนความสงสัย
ให้กับเจ้าของที่นาบริเวณนั ้นเป็นอย่างมาก มีทฤษฎีหลายทฤษฎีถูกตั้งขึ้นมา
เพื่อตอบคำถามของ คร็อพ เซอร์เคิล มันอาจเป็นข้อความ หรือภาษาที่ใช้สื่อ
สารกันระหว่างมนุษย์ต่างดาว หรืออาจเป็นแค่วงกลมที่สร้างขึ้นมาเพื่อเรียก
ร้องความสนใจแค่นั้นเองก็ได้



อันดับ 2 : ยักษ์แห่งเกาะอีสเตอร์



เดินทางมาสัมผัสเกาะปริศนาที่โดดเดี่ยว เวิ้งว้างกลางมหาสมุทร รูปสลักหิน
ลึกลับขนาดมหึมากว่า 800 รูป เรียงรายเต็มฝั่งทั่วเกาะ ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ รูป
สลักนี้มาจากไหน ? สร้างขึ้นได้อย่างไร ? อาจเป็นชาวโพลีนีเชียนชนพื้นเมือง
ที่มาตั้งรกรากเมื่ อ ค.ศ. 400 เป็นผู้สร้างขึ้น แต่ทำไมถึงสร้าง และอยู่บริเวณ
นี้ได้อย่างไรยังคงเป็นปริศนาดำมืด ด้วยวิวัฒนาการความรู้ของคนในสมัยอดีต
เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยกหินที่หนักกว่า 75 ตันมาไว้ตามชายฝั่งได้ ไม่ว่า
จะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงกระนั้นรูปปั้นเหล่านี้ก็ยังคงถูกทิ้งไว้เพื่อค้น หาคำตอบต่อไป



อันดับ 1 : แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์



มันคงเป็นปริศนาต่อไป และน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะ ปริศนาอันดับ 1
ที่ยังคงค้างคาใจเรา ฆาตกรต่อเนื่อง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ อาชญากรระดับ
โลกที่ยังจับตัวไม่ได้ การสังหารอย่างโหดมของเหยื่อหลายรายติดๆ
กันถูกก ล่าวขานถึง ย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนสร้างชื่อกระฉ่อนถึงความ
น่าส ะพรึงกลัว ไม่เพียงแต่ไร้วี่แวว ของฆาตกร การพิสูจน์ หรือทดสอบด้าน
นิติวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร จึงไม่มีเหตุผล หรือหลักฐานหนักแน่น
ในการมัดฆาตกร จากคดีฆาตกรรมที่โด่งดัง ทำให้มีผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้น มาก
มายหลักฐานสำคัญต่างๆ ถูกผุดขึ้นมาภายหลัง จะเป็นไปได้มั้ยที่จะสืบสาว
หาฆาตกรตัวจริงได้ แม้ฆาตกรคนนั้นคงไม่มีชีวิตอยู่ให้จับแล้วแต่ก็ยังดีที่ได้รู้ว่า
ฆาตกรตัวจริงผู้นั้นคือใคร ?




ที่มา - www.dek-d.com

Tuesday, August 18, 2009

10 อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก

เปิดโผ 10 อันดับเมืองน่าอยู่อาศัยที่สุดในโลก จากผลการสำรวจคุณภาพชีวิต ประจำปี 2009 ของ Mercer ที่ครอบคลุม 215 เมืองทั่วโลก



อันดับ 10 - เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย



ซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศออสเตรเลีย มีประชากรราว 4.5 ล้านคน สถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตของเมืองนี้ ได้แก่ ชายหาด และอ่าวที่สวยงาม รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เช่น ซิดนีย์ โอเปร่า เฮ้าส์ เป็นต้น

นอกจากจะเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 10 ของโลกแล้ว Mercer ยังระบุว่า ซิดนีย์เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 15 ของโลกอีกด้วย



อันดับ 9 - เมืองเบอร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



เบอร์น เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีประชากรอาศัยมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยมีจำนวนประชากรทั้งสิ้นราว 128,000 คน ใจกลางเมืองนี้ยังคงเอกลักษณ์ของการเป็นเมืองเก่าแก่และเต็มไปด้วยสถาปัต กรรมในยุคกลาง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก

ที่สำคัญ เมืองเบอร์นยังเป็นสถานที่ซึ่งอัลเบิร์ต ไอน์ไตน์ เคยเข้ามาอาศัยและทำงานราวปี ค.ศ. 1903 (พ.ศ. 2446) ปัจจุบัน บ้านของเขาซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 49 ถนนแครมกาซเซ่ (Kramgasse) ได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์บ้านไอน์ไตน์ ที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก



อันดับ 8 - เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี



แฟรงค์เฟิร์ต เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป ทั้งยังเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางยุโรป ตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต และ German Federal Bank มีประชากรราว 5 ล้านคน นอกจากความมั่งคั่งทางการเงินแล้ว เมืองนี้ยังมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ที่วิหารแบบโกธิค สมัยศตวรรษที่ 14 ขณะเดียวกันก็มีตึกระฟ้ารูปทรงทันสมัยและสวยงามตั้งตระหง่านบริเวณใจกลาง เมืองอีกด้วย



อันดับ 7 - เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี



มิวนิค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย มีประชากรราว 1.36 ล้านคน แม้จะเป็นเมืองที่เจริญและมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป แต่เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์โบราณสถานและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่แบบโกธิคเอาไว้ ได้เป็นอย่างดี

หลังถูกระเบิดโจมตีอย่างหนักถึง 71 ครั้งในช่วง 5 ปีสมัยสงครามโลกครังที่ 2 เมืองมิวนิคก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว และได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515)



อันดับ 6 - เมืองดึสเซลดอล์ฟ ประเทศเยอรมนี



ดึสเซลดอร์ฟ เป็นเมืองหลวงของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านแฟชั่น โฆษณา และโทรคมนาคมของประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ ทุกๆ ปี จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 4.5 ล้านคนทั่วโลก เดินทางมาชมขบวนพาเหรดสุดอลังการ ในช่วงเทศกาลคาร์นิวาลของเมืองดึสเซลดอร์ฟ

เมืองดึสเซลดอร์ฟ เป็นบ้านพี่เมืองน้องหรือเมืองแฝดกับหลายๆ เมืองทั่วโลก อาทิ เมืองวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย เมืองไคโร ประเทศอียิปต์ และ เมืองรีดดิ้ง ประเทศอังกฤษ เป็นต้น



อันดับ 4 ร่วม* - เมืองอ๊อคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
(*คะแนนเท่ากัน 2 เมือง จึงไม่มีอันดับห้า)



อ๊อคแลนด์ ตั้งอยู่ทางเกาะเหนือ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีประชากรอาศัยอยู่ราว 1.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 31% ของประชากรทั้งประเทศ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "City of Sails" เนื่องจากมีท่าเทียบเรือที่สวยงามถึง 2 แห่ง คือ ท่าเรือ Waitemata ทางด้านทิศเหนือ และท่าเรือ Manukau ทางด้านทิศใต้



อันดับ 4 ร่วม - เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา "แวนคูเวอร์" มักได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สะอาด และน่าอยู่ที่สุดในโลก เมืองดังกล่าวถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุด และยังเป็นเมืองท่าชายฝั่งที่มีชื่อเสียงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา

ปัจจุบัน แวนคูเวอร์ เป็นศูนย์กลางด้านการช้อปปิ้ง และการถ่ายทำภาพยนตร์ ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก



อันดับ 3 - เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



เจนีวา เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริค) โดยมีประชากรอาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองราว 185,000 คน และยังเป็นศูนย์กลางด้านการเงินที่สำคัญเป็นอันดับ 6 ของโลก

เจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร อาทิ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้ เจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์กรสันนิบาตชาติ และกาชาดสากล ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของ www (World Wide Web) ตลอดจนเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่และมีพลังงานสูงสุดในโลก หรือที่เรียกว่า Large Hadron Collider (LHC)



อันดับ 2 - เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



ซูริค เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความมั่งคั่งที่สุดในยุโรป และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรอาศัยอยู่ในตัวเมืองทั้งสิ้นราว 1.68 ล้านคน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าและวัฒนธรรมของประเทศ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ ซูริค ยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพการดำเนินชีวิตดีที่สุดในโลกจาก ผลการสำรวจของหลายสำนัก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006-2009



อันดับ 1 เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย



กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรเลีย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2009 จากผลการสำรวจของ Mercer

เมืองดังกล่าวมีความเข้มแข็งและมั่นคง ทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของพระนางมารี อังตัวเนตต์ และซิกมันด์ ฟรอยด์ นอกจากนี้ กรุงเวียนนา ยังถูกกล่าวถึงในบทเพลงของ Ultravox และ Billy Joel อีกด้วย



ที่มา - http://www.bsnnews.com/ContentDetail.asp?ContentID=15725

Wednesday, August 12, 2009

10 อันดับ อาหารยอดฮิตของนักบินอวกาศ

การเดินทางไปอวกาศครั้งหนึ่งๆ มักไปเป็นเวลาหลายวัน ดังนั้นเรื่องหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางคือเรื่องการกิน เพราะมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น น้ำหนัก การเก็บรักษาแรงโน้มถ่วง และความสะดวกในการรับประทาน ไปติดตาม 10 อันดับอาหารและเครื่องดื่มโปรดที่ได้รับการโหวตจากเหล่านักบินให้เป็น "อาหารอวกาศ" มีดังนี้


เริ่มกันที่ อันดับ 10 "ค็อกเทลกุ้ง"



เป็นอาหารว่าง ถูกปากนักบินอวกาศเกือบทุกคน



อันดับ 9 "เมล็ดมะเขือเทศและเมล็ดเบซิล"



เป็น เมล็ดพืชที่ยานอวกาศขนไปมากที่สุด นางบาบร่า มอร์แกน นักบินอวกาศของแคนาดาที่ขึ้นไปกับยาน STS-118 หวังว่าเมื่อลงกลับพื้นโลกแล้ว จะให้เด็กๆ นำมาทดลองปลูก เพื่อเทียบเคียงดูว่า เมล็ดพืชที่ขึ้นไปบนอวกาศกับเมล็ดพืชที่อยู่บนโลก อย่างไหนเมื่อปลูกแล้วจะมีความเอร็ดอร่อยมากกว่ากัน



อันดับ 8 "แอนไทแมตเทอร์"



เป็นเครื่องดื่มให้พลังงานประเภทเดียวกับกระทิงแดง ผสมด้วยไวตามินและเกลือแร่ ผลิตโดยบริษัทไมโครกราวิตี้เอนเตอร์ไพรซ์



อันดับ 7 "สเปซ แรม ซุป" หรือ "สเปซ ราเม็ง ซุป"



คือ บะหมี่ถ้วย นักบินอวกาศที่นำมากินคนแรกแน่นอนว่าต้องเป็นสัญชาติญี่ปุ่น คือ นายโซอิจิ โนกูจิที่เดินทางมากับยาน STS-114 เมื่อ 2 ปีทีแล้ว ราเม็งของยี่ห้อนิชชินดัดแปลงให้เป็นก้อนกลม ส่วนน้ำซุปนั้นให้แช่อยู่ในน้ำร้อนขนาด 70 องศาเซลเซียส เพราะบนอวกาศไม่มีน้ำเดือดให้ โดยมีให้เลือก 4 รส คือ รสซอสถั่วเหลือง รสเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น หรือ มิโสะ รสกะหรี่และรสหมู



อันดับ 6 "แคนาสแน็ก"



คือคุกกี้ของแคนาดา เป็นคุกกี้โอ๊ตมีขนาดพอคำและเอามาประกบกัน ตรงกลางจะเป็นครีมเมเปิ้ล ครีมราสเบอร์รี่ ครีมบลูเบอร์รี่ ครีมน้ำผึ้ง ครั้งแรกที่นำขึ้นมาบน อวกาศคือ เมื่อนายเดฟ วิลเลียมส์ นักบินอวกาศชาวแคนาดาขึ้นมากับยาน STS-118 การที่ทำให้คุกกี้อยู่ในขนาดพอดีคำนั้นก็เพื่อจะได้ให้เข้าปาก ง่ายๆ ไม่มีเศษคุกกี้หล่นลงมา "แคนาสแน็ก" บรรจุอยู่ในซองสุญญากาศ และบนคุกกี้มีสัญลักษณ์ใบเมเปิ้ลอยู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแคนาดา



อันดับ 5 "สไปซี่กรีนบีน" หรือ "ถั่วเขียวรสเผ็ด"



เมนูเด็ดของเชฟ "เอมเมอริล ลากาส" หนึ่งในเชฟหลายคนที่ได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าให้มาทดลองกับลิ้นนักบินอวกาศ



อันดับ 4 "โค้กและเป๊ปซี่"



ปี 1985 นาซ่าให้ทั้งโค้กและเป๊ปซี่ขึ้นไปบนอวกาศ โดยนาซ่าให้เอาขึ้นไปทั้งกระป๋องแต่ประดิษฐ์ฝาเปิดให้ เพื่อนักบินอวกาศจะได้รับรสชาติเต็มๆของเครื่องดื่มรสที่ว่า แต่การทดลองนี้ประสบความล้มเหลวเพราะแรงโน้มถ่วงที่เท่ากับศูนย์รวมทั้งไม่ มีตู้เย็น ต่อมานาซ่าจึงให้ทดลองขึ้นไปอวกาศอีกครั้ง โดยให้มีอยู่ในรูปถ้วยอัดด้วยความดันและมีที่เปิดถ้วย นักบินอวกาศจึงดื่มได้ตามใจปรารถนา



อันดับ 3 คือ "น้ำส้ม"



มาในรูปผงน้ำส้ม ยี่ห้อดังที่นาซ่าใช้คือ "แท็ง"



อันดับ 2 "ไอศกรีม"



ไอศกรีมแท่งนี้แห้ง เหมือนกับชอล์กและไม่เย็น แต่เมื่อเอาเข้าปากไปแล้ว มันละลายและมีรสชาติเหมือนกับกินไอศกรีมจริงๆ การนำไอศกรีมขึ้นไปบนอวกาศนั้น ต้องสกัดน้ำออกให้หมดและไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็นเพื่อให้มันแข็ง



และอันดับ1 นั้นคือ "ช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม"



เจ้า ของสโลแกน "ละลายในปาก แต่ไม่ละลายในมือ" ที่จริงแล้ว องค์การนาซ่าไม่ได้ระบุว่าเป็นช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการโฆษณา จึงระบุแต่เพียงว่าเป็นช็อกโกแลตเคลือบเท่า นั้น แต่เมื่อปี 1996 แชนนอน ลูซิด นักบินอวกาศหญิงเป็นผู้เปิดเผยยี่ห้อ โดยกล่าวว่า "บนสถานีอวกาศเมียร์น่าจะมีช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็มมากกว่านี้"




ที่มา - http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8185082/X8185082.html

Friday, August 7, 2009

10 อันดับ สุดยอดโรงแรมแปลกทั่วโลก

ถ้าคุณกำลังเจอปัญหากับบริการเดิมๆ การตกแต่งหรือตึกหน้าตาเดิมๆเวลาไปพักผ่อนตามโรงแรมต่างๆ โรงแรม 10 อันดับ ต่อไปนี้คือที่ๆเราขอแนะนำแบบสุดๆสำหรับนักท่องเที่ยวแบบคุณ แต่ละที่จะมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่แน่นอน นี่คือ 10 อันดับ สุดยอดโรงแรมแปลกทั่วโลก



1. The Giraffe Manor



โรงแรม Giraffe Manor คือโรงแรมสุดหรูและพิเศษสุด ตั้งอยู่นอกเมืองไนโรบิ เมืองหลวงของประเทศเคนย่า จุดเด่นของที่นี่ก็คือ มันตั้งอยู่กลางฝูงยีราฟนั่นเอง คุณสามารถดื่มด่ำกับการทานอาหารพร้อมกับหลบคอที่ยืดยาวของยีราฟที่ยื่นเข้ามา และจากเว็บไซต์ของโรงแรม ที่นี่คงเป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถให้อาหารและถ่ายรูปยีราฟได้จากโต๊ะอาหารเช้าและหน้าห้องพักของคุณ



2. The Daspark hotel



ที่นี่อาจจะดูไม่สะดวกสบายนัก แต่โรงแรม Daspark คือการปฏิวัติรูปแบบที่พักใหม่ที่ผู้คนมากมายเริ่มชื่นชอบ โรงแรมนี้มีอยู่ที่เมือง Ottensheim ประเทศ Austria ห้องพักของที่นี่สร้างจากท่อระบายน้ำขนาด 10 ตัน และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ฟุต ให้คุณได้พักผ่อน


3. The Harbour Crane



โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Harlingen ห่างจากเมือง Amsterdam เพียง 1 ชั่วโมง โดยห้องพักของคุณจะลอยอยู่เหนือพื้นสูงขึ้นไปบนห้องควบคุมเครนขนาดยักษ์ และคุณยังสามารถควบคุมเครนนี้ได้ทุกอย่างจากภายในห้องพักของคุณ


4. Dog Bark Park



โรงแรมที่เป็นที่ชื่นชอบของคนที่รักสุนัขแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง Cottonwood รัฐ Idaho ด้วยรูปร่างของโรงแรมที่ถอดแบบมาจากเจ้าสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล แขกที่มาพัก สามารถเข้าไปในตัวเจ้าบีเกิ้ลนี้จากทางเข้าที่อยู่ตรงระเบียงชั้น 2 การตกแต่งภายในนั้นออกแบบมาให้ลงตัวกับรูปแบบของโรงแรมนี้โดยเฉพาะ


5. Hotel Everland



ที่นี่น่าจะเป็นที่สุดหรูเพียงแห่งเดียวที่คุณคิดถึง เพราะโรงแรมนี้มีเพียงห้องเดียว ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ Palais de Tokyo โดยในโรงแรมจะมีทั้งห้องน้ำ เตียงขนาดคิงไซส์และเล้าจ์ พร้อมวิวสุดสวยของเมืองปารีส Seine และหอไอเฟลที่ประดับไฟสวยงามยามค่ำคืน คุณสามารถจองที่พักที่นี่ผ่านทางเวบไซต์ โดยจะสุ่มเวลาเปิดให้จองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น!


6. Marmara Antalya



ด้วยการผสมผสานระหว่างตุรกีและยุโรป โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Antalya ตุรกี โรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวที่สวยงาม การดีไซน์ที่ลงตัว และการบริการที่อบอุ่น จุดเด่นเหนืออื่นใดของโรงแรมนี้ก็คือ ทุกๆห้องพักจะหมุนไปเรื่อยๆแบบช้าๆ เพื่อให้สามารถซึบซับกับวิวสวยงามได้แบบ 360 องศา


7. Cappadocia Hotel



สำหรับโรงแรมนี้ก็ยังคงอยู่ที่ตรุกีเช่นกัน โรงแรมนี้สร้างโดยการขุดเข้าไปบนหน้าผาของภูเขา Yunak Evleri ห้องพักแต่ละห้องออกแบบมาเป็นถ้ำเหมือนในการ์ตูนฟลิ้นสโตน โรงแรมนี้สร้างเสร็จพร้อมกับห้องพักจำนวน 30 ห้องที่พาคุณกลับไปสัมผัสบรรยากาศสมัยยุค 1400 - 1500 ปีก่อน


8. Hobbit Motel



โรงแรม Hobbit นี้ตั้งอยู่ที่ Woodlyn Park นิวซีแลนด์ โดยเหมือนกับบ้านที่เหล่า Hobbit จากเรื่อง Lord of The Rings อยู่ คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสงบสุขของเหล่าฮอบบิทในนิยายยอดฮิตของ J.R.R. Tolkien ได้ที่นี่


9. Out ‘n’ About Treesort & Treehouse Institute



เพียงแค่ออกจากเมือง Cave Junction, Oregon มานิดเดียว โรงแรมนี้เสนอบ้านพักสุดหรูที่คุณฝันไว้ในวัยเด็กเพียง 18 หลัง แต่ละหลังมีทั้งห้องน้ำและตู้เย็น บางหลังสูงจากพื้นดินถึง 300 ฟุต ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อนสบายในวันหยุดบนบ้านต้นไม้อีกแล้ว


10. Wagon Stays.



อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจในนิวซีแลนด์อยู่ที่เมือง Christchurch แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คุณสามารถพักอยู่บนรถม้าที่มีพร้อมทั้งห้องน้ำ ห้องครัว และทีวีดาวเทียม โรงแรมนี้ให้บรรยากาศที่พักบนรถม้าที่ผสมกับความทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อความสุขของแขกที่มาพักทุกคน




Credit: www.wackyarchives.com

Thursday, August 6, 2009

10 อันดับสุดยอดสวนสนุกของโลก

จะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกับ 10 สุดยอดสวนสนุกของโลก ที่เด็กเที่ยวได้และผู้ใหญ่อย่างเร ๆก็เที่ยวดี สักวันจะไปเที่ยวให้ครบทั้ง 10 ที่ให้ได้เลย ถ้าสังขารเอื้ออำนวย..ฮ่าๆ

อ่านเรื่องนี้แล้วก็ไม่ต้องอิจฉาประเทศอื่นเค้าหรอกนะครับ เพราะถึงแม้ว่าสวนสนุกของบ้านเรา เมืองเราจะไม่มีติดอันดับอยู่เลย ก็ไม่เป็นไรครับ ดรีมเวิลด์ หรือสวนสยามก็เราก็ยังน่าเที่ยวอยู่นะ พาเด็กๆในบ้านไปเที่ยวสวนสนุกกันนะครับ ส่วนผู้ใหญ่ที่คิดจะไปเที่ยวสวนสนุกแล้วตีตั๋วเล่นเครื่องเล่นที่ให้ความตื่นเต้น หวาดเสียวกันแล้วล่ะก็ อย่าลืมกุมหัวใจของคุณไว้ให้ดีล่ะ



10. ซีเวิลด์ (SeaWorld)



สวนสนุกซีเวิลด์เกิดจากแนวคิดของศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย 4 คน ที่ต้องการสร้างร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบทะเลๆ แต่แทนที่ลูกค้าจะได้ทานปลาเป็นอาหาร พวกเขากลับพลิกแพลงให้ลูกค้าได้ชมปลาว่ายวนไปมารอบๆ ตัวแทนสวนสนุกซีเวิลด์แห่งแรกเกิดขึ้นที่ซานดิเอโกในปี 2507 จากนั้นก็มีเพิ่มขึ้น จนกระทั่งมีจำนวนถึง 3 แห่งในปัจจุบัน นอกจากที่ซานดิเอโกแล้วก็ยังมีอีกที่เมืองออร์แลนโดรัฐฟลอริดาและเมืองซาน อันโทนิโอ รายการเด็ดของที่นี่คือ การแสดงสดของสัตว์น้ำแสนรู้ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวมาที่นี่ก็ต้องเตรียมใจมาเปียก ทุกแห่งจะมีโปรแกรมสำหรับการทัศนศึกษาซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบได้ความรู้ไปด้วยในตัว เด็กๆสามารถเลือกโปรแกรมทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ และแบบค้างคืน ที่สวนสนุกซีเวิลด์ในออร์แลนโดยังมีโปรแกรมว่ายน้ำลึกกับปลาฉลาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ใส่ชุดประดาน้ำแล้วเข้าไปอยู่ในกรงเหล็ก ก่อนที่กรงจะถูกหย่อนลงสู่สระใหญ่ที่มีปลาฉลามเขี้ยวยาวว่ายวนอยู่รอบๆ



9. สวนสนุกพาราเมาท์



พาราเมาท์ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เวียคอมฯ คือคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เพราะจุดเด่นของที่นี่คือเครื่องเล่นหลากหลายชนิดที่มีแนวคิดมาจากภาพยนตร์ สวนสนุกของพาราเมาท์มี 5 แห่งในอเมริกาเหนือ แต่ละแห่งมีคอนเซ็ปต์เกี่ยวพันกับบริษัทในเครือเวียคอมที่ทำธุรกิจด้านบันเทิง เช่น บริษัทผู้ผลิตรายการการ์ตูนนิกเคิลโลเดี้ยนสวนสนุก "เกรท อเมริกา" (Great America) ของพาราเมาท์ที่ตั้งอยู่นอกเมืองซานฟรานซิสโก มีบริเวณที่เรียกว่า นิกเคิลโลเดี้ยน เซ็นทรัล มีเครื่องเล่นหลายอย่างที่เกี่ยวพันกับรายการการ์ตูน เร็วๆ นี้มีเครื่องเล่นอีก 10 อย่างเพิ่มเข้ามา และที่สวนสนุกคิงส์ ไอส์แลนด์ของพาราเมาท์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซินซินเนติ ก็มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะในความมืดที่เรียกว่า "สคูบี้-ดู" และที่สวนสนุกคิงส์ โดมิเนียน ในรัฐเวอร์จิเนีย ก็มีเครื่องเล่นเป็นหอสูงที่ปล่อยนักท่องเที่ยวดิ่งลงมาจากความสูง 305 เมตร



8. เลโกแลนด์ (Legoland)



ตั้งอยู่ในเมืองคาร์ลส์บาด รัฐแคลิฟอร์เนีย สวนสนุกแห่งนี้มีทั้งส่วนที่จัดแสดงงานประติมากรรมที่ทำจากตัวต่อเลโก้นับล้านๆชิ้น และส่วนที่เป็นเครื่องเล่นต่างๆ หัวใจหรือไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้ คือ "มินิแลนด์" ซึ่งใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 20 ล้านชิ้น สร้างอาคารจำลองซึ่งเป็นที่สำคัญๆในสหรัฐอเมริกา เช่น ทำเนียบขาว และเมืองนิวยอร์กจำลองและทั่วทั้งสวนสนุกแห่งนี้มีการใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 30 ล้านชิ้น ถ้าไม่อยากเดินชมเฉยๆ จะไปแวะหาความสนุกตื่นเต้นกับเครื่องเล่นต่างๆก็ได้ ที่นี่มีเครื่องเล่นมากกว่า 50 ชนิด และยังมีโรงเรียนฝึกขับรถ 1 แห่งอยู่ในนั้นด้วย นอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนในคอร์สที่เรียกว่า "ไมนด์สตรอม" (Mindstorms) เพื่อฝึกหัดสร้างหุ่นยนต์ คอร์สนี้ทางสวนสนุกจัดร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเส็ตส์ หรือเอ็มไอที สถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 นอกจากที่สหรัฐแล้ว สวนสนุกเลโกแลนด์ยังมีในอีก 3 ประเทศ คือ อังกฤษ เดนมาร์ก และเยอรมนี



7. เลค คอมเพาซ์ (Lake Compounce)



อยู่ในเมืองบริสตอล รัฐคอนเนกติกัต เป็นสวนสนุกอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นแห่งหนึ่งที่สวยที่สุดในโลกเช่นกัน เพราะที่แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบและภูเขา เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2389 หรือ 150 กว่าปีมาแล้ว แต่ตอนนั้นเปิดบริการในฐานะสวนสาธารณะให้ผู้คนเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ต่อมาในปี 2540 จึงมีนายทุนรายใหม่คือบริษัทสวนสนุกเคนนีวูดฯ เข้ามาซื้อกิจการทำเป็นสวนสนุกเต็มรูปแบบผู้ที่ชื่นชอบของเก่า ของโบราณก็ไม่ควรพลาดรถไฟเหาะและชิงช้าสวรค์รุ่นเจ้าคุณปู่ (ปี 2454) รวมทั้งเรือจักรไอน้ำที่จะพานักท่องเที่ยวล่องชมวิวทะเลสาบ นอกจากนี้เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศ สวนสนุกของครอบครัว จึงมีบริการเสิร์ฟน้ำอัดลมฟรีตลอดทั้งวัน (ของหวานขึ้นชื่อของที่นี่เป็นขนมทอดชื่อว่า "โอรีโอ") เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดของ เลค คอมเพาซ์มีชื่อว่า คลิปเปอร์ โคฟ (Clipper Cove) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนน้ำ มีทั้งเชือก ทั้งตาข่ายและกระดานหกให้ปีนป่ายและกระโดดกันสุดเหวี่ยง นอกจากนี้ยังมีการแสดงของการ์ตูนการ์ฟิลด์และเพื่อนพ้อง รวมทั้งละครหุ่นโชว์ด้วย ที่นี่มีเครื่องเล่นทั้งหมด 40 อย่าง ค่าผ่านเข้าประตูสำหรับผู้ใหญ่ 29.95 ดอลลาร์ และเด็ก 20.95 ดอลลาร์



6. สวนสนุกเคนนี่วูด (Kennywood)



ผู้ที่ชื่นชอบสวนสนุกแบบดั้งเดิม ที่มีขนาดพื้นที่เล็กๆ ไม่ต้องเดินกันให้เมื่อยมากนัก ก็มักจะติดอกติดใจสวนสนุกเคนนี่วูด ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2441 แต่เดิมสวนสนุกแห่งนี้เป็นของบริษัทการรถไฟเอกชนที่มีนายแอนดรู เมลลอน เป็นเจ้าของ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ชิงช้าสวรรค์และภัตตาคารแห่งหนึ่งจากยุคนั้นก็ยังคงตกทอดมาให้คนรุ่นนี้ได้เล่นและใช้บริการกัน ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาแห่งหนึ่งด้วยเพราะที่นี่มีมรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกันมากมาย เช่น รถไฟเหาะรุ่นแรกๆ ที่ทำด้วยไม้ ล่องแก่งยุคแรกๆ ที่ทั้งเรือพายและเรือท่อนซุงทำจากไม้จริงๆ แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ของเก่าๆ เพราะรถไฟเหาะและเครื่องเล่นยุคใหม่ที่ชวนตื่นเต้นหวาดเสียวก็มีให้เล่นกัน รวมทั้งสวนสนุกสไตล์ฮาวายที่เรียกว่า หุบเขาแห่งภูเขาไฟ หรือ Volcano Valley ที่มีเครื่องเล่นที่เรียกว่า Big Kahuna เป็นเรือที่แล่นแบบควงสว่าน กระตุ้นต่อมอะดรีนาลินได้เป็นอย่างดีที่นี่มีเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่ 34 ชนิด สำหรับเด็ก 14 ชนิด ช่วงฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 1 ล้านคน ค่าผ่านประตู 8 ดอลลาร์ แต่สำหรับผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ลดราคาลงเหลือ 7 ดอลลาร์ และค่าตั๋วเครื่องเล่นแบบ 1 วันเล่นได้ทุกอย่างก็เพียง 28.95 ดอลลาร์



5. สวนสนุกดิสนีย์ (Disney)



คำว่า "ดิสนีย์" กับคำว่า "สวนสนุก" นั้นแทบจะกลืนกลายเป็นคำเดียวกันไปแล้ว เพราะสวนสนุกดิสนีย์นั้น นับเป็นผู้บุกเบิกและดำเนินนโยบายการตลาดที่ทำให้คนทั่วโลกได้ตระหนักรับรู้ถึงนิยามแห่งคำว่าสวนสนุก ปัจจุบันดิสนีย์มีสวนสนุก 5 แห่ง คือ สวนสนุกดิสนีย์ที่เมืองอันนาไฮม์ที่เมืองอันนาไฮม์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย (เปิดในปี 2498) สวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่เมืองออร์แลนโดในรัฐฟลอริดา (เปิดในปี 2514) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแห่งที่ 5 เปิดที่ฮ่องกงในช่วงปลายปี 2548 สวนสนุกแต่ละแห่งของดิสนีย์มีเครื่องเล่นจำนวนมากมาย มีการแสดงและขบวนพาเหรดหลายรอบ ทั้งยังมีโรงแรม ร้านค้าและภัตตาคาร ร้านอาหารจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ละแห่งมีจำนวนเครื่องเล่นใหม่ๆเพิ่มเข้ามาอยู่เสมอ เช่นสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่ฟลอริดา จะมีเครื่องเล่นใหม่ที่เรียกว่า Mission : SPACE at Epcot ซึ่งจำลองบรรยากาศการนั่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารถัดไปจะมีรีสอร์ตแห่งใหม่คือ Pop Century Resort และในก็จะมีที่เที่ยวแห่งใหม่ในบริเวณสวนสนุกแห่งนี้ คือ Epedition Everest เป็นรถไฟเหาะความเร็วสูงที่สามารถวิ่งถอยหลังได้ด้วย



4. ดิสคัฟเวอรี โคฟ (Discovery Cove)



เพิ่งเปิดเมื่อปี 2543 ตั้งอยู่ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เป็นสวนสนุกแบบสวนน้ำขนาดย่อมที่มีระบบวางผังและการจัดการดีเยี่ยม จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าได้รอบละ 1,000 คนเท่านั้น ที่นี่จึงไม่ต้องมีการเข้าคิวเป็นแถวยาวเพื่อรอเล่นเครื่องเล่น บริการก็ทั่วถึงนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะเมื่อเข้ามาภายในบริเวณแล้ว นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะมีไกด์นำชม สวนน้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีเวิลด์ (SeaWorld) ประกอบด้วยทะเลสาบน้ำจืด ชายหาด แนวประการัง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถว่ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายในบริเวณ สวนสนุก หรือจะนั่งเรือไปก็ได้ ที่นี่ให้ทั้งความบันเทิงและความรู้ ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวมุ่งจะมาทำคือการได้ว่ายน้ำเคียงข้างไปกับปลาโลมาแสน รู้ นอกจากนี้ยังมีทัวร์ดำน้ำอีกด้วย ราคาแพ็กเกจทัวร์เริ่มที่ 229 ดอลลาร์



3. ซีดาร์ พ้อยท์ (Cedar Point)



อยู่ที่เมืองแซนดัสกี้ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาเช่นกัน เน้นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่คลั่งไคล้ความรู้สึกขยัก ขย้อนในกระเพาะเวลาที่เคลื่อนตัวเลื่อนไหลวูบวาบไปตามรางรถ ซีดาร์ พ้อยท์มีเครื่องเล่นถึง 68 ชนิด และรถไฟเหาะอีก 16 ชนิด เรียกว่ามีมากกว่าสวนสนุกอื่นใดในโลกใบนี้ เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในฤดูร้อนนี้คือ Top Thrill Dragster ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะที่สูงที่สุดและเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงสุดในโลก นั่นหมายถึงเมื่อรถเคลื่อนถึงยอดสูงสุดนั้น คือเหนือพื้นดิน 420 ฟุต และความเร็วสูงสุดคือ 120 ไมล์ต่อชั่วโมง มีทั้งการเคลื่อนตัวแบบตกดิ่งลงจากเบื้องสูง และหมุนม้วนแบบควงแต่ผู้ที่ชอบความบันเทิงแบบนุ่มนวลก็มีที่ให้เข้าไปหย่อน ใจ คือสวนสนุกตัวการ์ตูนในชุด "พีนัทส์" (Peanuts) หรือที่รู้จักกันดีในนามสนู้ปปี้และเพื่อนพ้อง นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำ Soak City สำหรับคนที่ไม่กลัวน้ำ และสวนสนุกประลองความเร็ว Challenge Park ที่มีสนามแข่งโกคาร์ท สนามกอล์ฟเล็กและเครื่องเล่น RipCord ที่ผสานความตื่นเต้นของการดิ่งพสุธาและการเล่นเครื่องร่อนเข้าไว้ด้วยกัน ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดของที่นี่คือ เดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ซีดาร์ พ้อยท์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2413 ราคาตั๋ว 43.95 ดอลลาร์



2. บุช การ์เด้น (Busch Garden)



เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2502 ตั้งอยู่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีอีกแห่งที่เมืองวิลเลียมสเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย (เปิดปี 2518) จุดเด่นคือความเป็นสวนสนุกที่ผนวกสวนสัตว์เข้าไว้ด้วย บรรยากาศจึงเน้นความเป็นธรรมชาติ รถไฟเหาะมีทั้งแบบดั้งเดิมที่เรียกเสียงกรี๊ดพอเบาะๆ และแบบใหม่ที่เพิ่มความหวาดเสียวมากขึ้น สวนสนุก บุช การ์เด้น ที่เมืองแทมปา มีเครื่องเล่น 29 ชนิด เน้นบรรยากาศแบบแอฟริกา มีพื้นที่จำลองป่าโปร่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชมชีวิตความเป็นอยู่ของช้าง แรด ม้าลายและกวาง ที่หากินโดยอิสระอยู่ในพื้นที่กว่า 29 เอเคอร์ แหล่งดึงดูดใจใหม่ล่าสุดของสวนสนุกทั้งสองแห่งคือ บ้านผีสิง 4 มิติ (Haunted Lighthouse 4D theater) ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีเอฟเฟกต์พิเศษเพิ่มความสมจริงขึ้นมาอีกมิติ เช่น ลมระเบิดและฝอยน้ำ ที่ฉีดพวยพุ่งออกมาจากเก้าอี้นั่งของผู้ชมทุกๆ ที่นั่งที่วิลเลียมสเบิร์กจะเด่นที่เครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะ และหมู่บ้านวัฒนธรรม โดยจะแบ่งพื้นที่สวนสนุกเป็นหมู่บ้านยุโรปจำลอง 9 หมู่บ้านเพื่อแสดงภาพวัฒนธรรมพื้นเมืองของอังกฤษ สกอตแลนด์ เยอรมนี และอิตาลีรวมจำนานเครื่องเล่นของที่นี่ก็ประมาณ 50 อย่าง ค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 46.99 ดอลลาร์ ตั๋วเด็ก 39.99 ดอลลาร์ ส่วนบุช การ์เด้นท์ที่เมืองแทมปา ค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 51.95 ดอลลาร์ เด็ก 3-9 ขวบ 42.95 ดอลลาร์



และ1. อัลตั้น ทาวเวอร์ (Alton Towers)



สวนสนุกแห่งนี้อยู่ในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมือง Staffordshire ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะทั้งหลายของอัลตั้น ทาวเวอร์ เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจทั้งผู้ที่ไปเที่ยวแบบครอบครัวและผู้ที่แสวงหาความมันบนความระทึกใจโดยเฉพาะสองเครื่องเล่นใหม่ของที่นี่คือ บ้านผีสิงและลานเล่นลูกยางสำหรับเด็กเล็ก ส่วนผู้ที่ชอบความหวาดเสียวบนที่สูงก็ต้องไปลองเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า Black Hole, Submission และ Ripsaw

นอกจากเครื่องเล่นแล้ว ภายในบริเวณอัลตั้น ทาวเวอร์ยังมีโรงแรม 2 แห่ง และภายในโรงแรม 1 ใน 2 แห่งนี้ยังมีสวนสนุกแบบสวนน้ำสไตล์แคริบเบียนในร่มอีกด้วยนับเบ็ดเสร็จจำนวนเครื่องเล่นของที่นี่มี 30 อย่างด้วยกัน แต่ละฤดูกาลจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน และเดือนกรกฎาคมของแต่ละปีคือช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเนืองแน่นที่สุด อัลตั้น ทาวเวอร์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2523 ค่าเข้าชมสำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป 26 ปอนด์ 4-11 ขวบ 21 ปอนด์ และต่ำกว่า 4 ขวบเข้าฟรี




ที่มา seedang.com/stories