Thursday, July 30, 2009

10 อันดับ ภาพจากอวกาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดปี 2008

ภาพจากอวกาศ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในรอบปี 2008 โดย National Geographic จำนวน 10 ภาพ


อันดับที่ 10 : Supernova SN 1006 แสดงอนุภาคพลังสูง



เป็นการสำรวจ SN 1006 supernova มีตำแหน่งห่างจากโลก 7,000 ปีแสง โดย Hubble Space Telescope ร่วมกับ Chandra -CTIO - VLA/GBT Observations แสดงภาพระยะใกล้ ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอนุภาค พลังงานในระดับสูง (High energies) ของ Supernova shockwaves มีลักษณะแสงคล้าย ริบบิ้นแผ่ยาวและกรรโชกออกมา ด้วยคลื่นระเบิดจากการไหลท่วม ของก๊าซไฮโดรเจน ความเร็วราว 6-10 ล้านกิโลเมตร/ชั่วโมง มีความร้อนสูงมาก


อันดับที่ 9 : ดาวเคราะห์ โคจรรอบ HR 8799 ดวงอาทิตย์



HR 8799 มีฐานะเป็นดาว Host star (ดวงอาทิตย์ระบบสุริยะอื่น) มีตำแหน่งห่างจากโลกประมาณ 130 ปีแสง สามารถมองจากโลกได้ ด้วยกล้อง ฺBinoculars ความสุกสว่างระดับ 5.96 Magnitude ขนาดมวลใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 1.5 เท่า

มีบริวารเป็นดาวเคราะห์ 3 ดวงโคจรอยู่โดยรอบ คือ HR 8799 b - HR 8799 cและ HR 8799 d ทั้งหมดมีวงโคจรห่างจาก Host star 68 AU - 38 AU - 24 AU ตามลำดับ และดาวเคราะห์แต่ละดวงใช้เวลาโคจร รอบโดย Host star ตนเองประมาณ 465.7 ปี - 189 ปี – 100 ปี ตามลำดับ ได้สำรวจพบเมื่อ ปี ค.ศ. 2008

นับเป็นภาพดาว HR 8799 ภาพแรกทีมีดาวเคราะห์ (จุดเล็กด้านเหนือ)โคจรอยู่รอบ Host star ในระบบสุริยะของตน ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมี โดยถ่ายจากพื้นโลกที่หอสังเกตการณ์ GeminiObservatory ด้วยกล้อง Infrared technology บนเกาะฮาวาย

จากการวิเคราะห์ มีความเป็นไปได้ ดาวเคราะห์เล็กๆ ที่เห็นมีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัส 8 เท่า อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อโต้แย้งกันว่า เป็นดาวเคราะห์หรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อมูลน้อยเกินไป โดยยังไม่ทราบถึง แรงดึงดูดระหว่างกันอย่างแท้จริงอาจจะเป็น เพียงดาวทั่วไปก็ได้ ซึ่งขณะนี้ยังจ้องมีข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติม


อันดับที่ 8 : กิจกรรมหลุมดำยักษ์ ระยะใกล้ ใจกลางทางช้างเผือก



Sagittarius A* (หรือเรียก A-star) เป็นตำแหน่งมีความเป็นปึกแผ่นของ Radio emission (การเปล่งรังสีช่วงคลื่นวิทยุ) บริเวณจากใจกลาง Milky Way Galaxy ด้วยลักษณะพิเศษ ดังกล่าว จึงพิจารณาได้ว่า มีความสัมพันธ์กับ หลุมดำยักษ์ (Supermassive black hole) ที่จุดศูนย์กลางของ Milky Way Galaxy

ฉะนั้น Sagittarius A* จึงเป็นการเกี่ยวข้องกับ หลุมดำยักษ์ ซึ่งไม่ใช่หลุมดำแต่เป็นการสำรวจ การฟุ้งกระจายของ คลื่นพลังงานจากก๊าซ และกลุ่มหมอกร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 1 ล้านองศา เป็นแหล่งคลื่นวิทยุ (Radio source ) ท่วมล้นออกมาจากหลุมดำยักษ์ เพราะตัวหลุมดำเองไม่สามรถเปล่งแสงออกมาได้ แต่ในอนาคตอาจมีเทคนิคถ่ายภาพ หลุมดำโดยตรงได้

ดัง นั้นจึงเป็นภาพ กิจกรรมการแสดง หลุมดำมวลยักษ์ มีการทำงานส่งผลออกมา ภายนอกในบริเวณใกล้เคียง โดยมีการหมุนม้วนกันเหมือนเส้มผมพันกัน เชื่อว่ามีความ กว้าง 4,506 กิโลเมตร มีมวลมากกว่า ดวงอาทิตย์ 2-4 ล้านเท่า์

เป็นการถ่ายภาพระยะไกลจากพื้นโลก ด้วยกล้อง Radio telescopes จากการเล็งกล้อง 3 จุดบนโลก พร้อมๆกัน คือจาก Hawaii – Arizona และ California ไปยัง เป้าหมายตำแหน่ง Sagittarius A* (A-star) บริเวณใจกลาง Milky Wayจึงได้ภาพดังกล่าว


อันดับที่ 7 : สภาพเตรียมหมดอายุขัยของ Supernova SN 1006



เมื่อ 1,000 ปีมาแล้ว Supernova SN 1006 ถูกสำรวจพบ และมีการบันทึกไว้ในปูม ของนักดาราศาสตร์ชาว China – Japan – Europe และ Arab โดยในครั้งนั้นมีความสุกสว่างเท่ากับ ดาวศุกร์ เห็นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ เหมือนพุลแตก (Fire-works display) บนท้องฟ้า โดยปราศจากความเข้าใจว่าเป็นปรากฎการณ์สิ่งใด

วันนี้ นักดาราศาสตร์ ทราบว่า Supernova SN 1006 มีสาเหตุจาก White dwarf star (ดาวแคระขาว) ที่ไม่เสถียรและระเบิดออกมา เป็นการปลดเปลื้องธาตุของตนเอง เช่น Iron อย่างเร่งด่วนจากภายใน เพราะว่าไม่มีวัตถุดิบเพียงพอ โดยหลังจากนี้ไปการเข้าสู่ พัฒนาการเป็น Neutron star หรือ Black hole (หลุมดำ) อย่างสมบูรณ์แบบต่อไป

ภาพการระเบิด SN 1006 supernova remnant มีตำแหน่งห่างจากโลก 7,000 ปีแสง ในหมู่ดาว Lupus (หมาป่า) ใช้เทคนิคการถ่ายประกอบด้วย X-ray data จาก NASA's Chandra X-ray Observatory (สีน้ำเงิน) Optical data จาก The University of Michigan's 0.9 meter Curtis Schmidt telescope at the NSF's Cerro Tololo Inter-American Observatory (CTIO; สีเหลือง) และ Digitized Sky Survey (สีส้ม และแสงสีน้ำเงิน) ร่วมกับRadio data จาก NRAO's Very Large Array และ Green Bank Telescope (VLA/GBT; สีแดง) โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 61 ชั่วโมง รวม 11 จุด


อันดับที่ 6 : แหล่งกำเนิดดาว นอกเขต Southern Pinwheel galaxy



Southern Pinwheel (M 83 หรือ NGC 5236) จัดอยู่ในประเภท Spiral galaxies สามารถมองจากโลกด้วยกล้อง Telescopes ตำแหน่งในหมู่ดาว Hydra (งูไฮดรา) มีความสุกสว่างระดับ 7.6 Magnitude โดยสำรวจพบมากว่า 250 ปีแล้ว มีระยะทางห่างจากโลก 15 ล้านปีแสง

ภาพใหม่นี้ ทำให้เห็น Embryonic stars (การฟักตัวของดาว) เป็นจุดที่ความสุกสว่างตรงกลาง ในวงแขน (สีแดง) วนอยู่รอบๆกาแล็คซี่ นัยเป็นลักษณะรูปแบบ Absolutely stunning (ที่น่ามหัศจรรย์) ไม่ต้องพึงพาสิ่งใดเหตุเพราะ มีตำแหน่งของตนนอกเขตกาแล็คซี จึงขาดแคลนวัตถุดิบ ต่อการก่อตัวในระบบของดาว (Star formation)


อันดับที่ 5 : ร่องรอยถูกชน อย่างน่าตกใจ บน ดวงจันทร์ Phobos



ดาวอังคาร มีดวงจันทร์ โคจรเป็นบริวาร 2 ดวงคือ Phobos และ Deimos มีขนาดเล็กทั้งคู่ สำหรับดวงจันทร์ Phobos นักดาราศาสตร์ตั้งฉายาว่า Doomed moon (ดวง จันทร์เคราะห์ร้าย) เพราะมักจะมี ดาวเคราะห์น้อย จาก Main asteroid belt (ตำแหน่งระหว่าง ดาวอังคารกับดาวพฤหัส) พุ่งเข้าชนปะทะบ่อยครั้ง

ดวงจันทร์ Phobos มีขนาด 17x27 กิโลเมตรและวงโคจรใกล้ดาวอังคารมากเพียง 5,800 กิโลเมตร (ดวงจันทร์ของโลกโคจรห่าง 400,000 กิโลเมตร) ดังนั้นราวอีก 100 ล้านปี ดวงจันทร์ Phobos อาจเริ่มไม่เสถียรจากการถูกชนปะทะ และถูกแรงดึงดูด พุ่งเข้าหาดาวอังคารเอง หรือ ถูกชนปะทะจนเหลือเพียงชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดเหลือ แต่เศษซากโคจรรอบ ดาวอังคารเป็นวงแหวนหิน

ภาพที่เห็นความคมชัดสูง จึงมองเห็นข้อพิสูจน์จากการถูกชนปะทะจาก อุกกาบาต
หรือดาวเคราะห์น้อย เกิดหลุมบ่อมากมาย แสดงถึงการชนหนักและรุนแรงในแต่
ละครั้งอย่างน่ากลัวและน่าตกใจ


อันดับที่ 4 : รอยยับย่นของพายุก๊าซ บน ดาวพฤหัส



บน ดาวพฤหัสพื้นผิว เป็นแหล่งเกิดพายุขนาดใหญ่ มีพลังขนาดลมรุนแรง มากกว่า โลกหลายเท่าเพราะไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ภูเขา ต้นไม้เหมือนโลกสภาพบรรยากาศ ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจน ฮีเลียมหนาแน่น ยังมีส่วนประกอบของน้ำและก๊าซ แอมโมเนีย (Ammonia) จัดอยู่ใน กลุ่มดาวเคราะห์ ประเภท Jovian planets

การเปิดเผยรอยย่น แนวก๊าซของ ดาวพฤหัส ซึ่งเป็นพายุก๊าซ ถ่ายจากพื้นโลกด้วยกล้องขนาด 27-foot (8.2-meter) สั่งการด้วยคอมพิวเตอร์ จากหอสังเกตการณ์ ในประเทศ Chile ทำให้สามารถเห็นภาพรอยยับย่น ที่เล็กยาวราว 300 กม. บนดาวพฤหัสให้เห็นได้ชัดขึ้น

ภาพดังกล่าว ใช้เลนส์ซึ่งดัดแปลงให้ขจัดความเพี้ยน และบิดเบี้ยวจากแสงที่ผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลก เรียกว่า MAD (for Multi-Conjugate Adaptive Optics Demonstrator) โดยระบบใช้การอ้างอิงเป้า ดาวมากกว่า 2 ดวง และสามารถขจัดความพร่ามัว มากกว่า 30 เท่า


อันดับที่ 3 : Gamma-ray burst น่าอัศจรรย์ เห็นจากโลกด้วยตาเปล่า



ปรากฎการณ์ของ Gamma-ray bursts มีช่วงอายุสั้น เพราะเป็นพลังงานจากแสง (Energetic form of light) อย่างน้อยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Supernovae บางประเภท เป็นการระเบิดจากช่วงเวลาดาวยักษ์ ได้หมดอายุขัยแล้ว ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะ จากการสำรวจพบเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที หรือไม่กี่นาทีแต่มีความสว่างเป็นพันล้านเท่าของดวงอาทิตย์

นักวิทยาศาสตร์ ได้ตรวจสอบพบแสงกระพริบเป็นช่วงสั้นๆ ตำแหน่งบริเวณช่องว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar) ด้วยตาเปล่า หลังจากนั้นจึงได้พยายามค้นหาปรากฎการณ์แปลกๆ ดังกล่าว

ในคืนต่อมา พบว่าเป็นการระเบิดอย่างเร็ว ขนาดยักษ์ (Massive gamma-ray burst) มีระยะทาง ห่างจากโลก ถึง 7.5 พันล้านปีแสง จากการใช้ NASA's Swift satellite ค้นหาด้วย X-Ray Telescope (left) - Optical/Ultraviolet Telescope (right) ทราบว่า แหล่งที่มาชื่อ GRB 080319B มีระยะครึ่งทางของจักรวาล โดยบริเวณดังกล่าวนั้น มนุษย์ไม่สามารถมองเห็น อะไรจากโลกได้เลย


อันดับที่ 2 : หิมะขนาดใหญ่ถล่มลงจากภูเขา บนดาวอังคาร



สภาพทั่วไปทางธรณี ดาวอังคารมีความหลายหลากเช่นเดียวกับโลก อดีตมีน้ำในปริมาตรมากซึ่งอาจมากกว่าบนโลกในปัจจุบันนี้ น้ำ และลมมีบทบาทที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ โดยเป็นตัวนำสารประกอบบนพื้นผิวเข้ารวมกัน สนับสนุนจากการเกิดแผ่นดินไหว และดาวอังคารมีหิมะในฤดูหนาวเช่นเดียวกับโลก

ครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ เห็นภาพหิมะถล่มกลิ้งเกิดขึ้นบน ดาวอังคาร จากแฟ้มภาพของยานสำรวจ HiRISE ซึ่งโคจรรอบดาวอังคารถ่ายไว้ได้ รู้สึกเป็นเรื่องสนุกสนานเหมือนเกิด ขึ้นเช่นเดียวกับที่สวิตเซอร์แลนด์

แต่หลังจากได้พิจราณาทบทวนดู จากภาพย้อนหลังไป พบว่ามีสถิตสูงมาก บางภาพเกิดขึ้น เมื่อปีที่แล้ว ความคมชัดสูงของภาพ ทำให้เห็นฤทธิ์เดชของคลื่นฝุ่นตลบ รอยเลื่อนของแผ่นดิน อย่างรุนแรง

ทำให้ทราบกลไกการเคลื่อนไหวบนดาวอังคาร ที่เราไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงนับมาล้านปี ภาพดังกล่าวเป็นหน้าผาสูงชัน 700 เมตร ลาดชัน 60 องศา ขอบหน้าผามีชั้นโดม ถูกทับถม ด้วย Carbon dioxide (สีน้ำตาลแดง) ตำแหน่งดังกล่าวเป็นขั้วด้านเหนือ กำลังย่างเข้าสู่ Spring (ฤดูหิมะละลาย) เป็นวัฐจักรบนดาวอังคาร


อันดับที่ 1 : พระจันทร์ยิ้ม



ภาพที่ทุกคนออกไปมองท้องฟ้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ จนเรียกติดปากว่า พระจันทร์ยิ้มเกิดปรากฎการณ์เมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2551 ทางดาราศาสตร์ เรียกว่า เป็นการ เกิด Planetary conjunction คือปรากฏการณ์มองเห็น วัตถุบนท้องฟ้าที่อยู่ห่างกันมาอยู่ใน ตำแหน่งใกล้กัน ดังเช่นครั้งนี้ ดาวศุกร์ ดาวพฤหัส และดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งใกล้กัน โดยจะเกิดขึ้นนานๆครั้ง

จัดอันดับเป็นภาพที่คนทั่วโลกดูมากที่สุด ทั้งที่เกิดขึ้นในปลายปี โดยแถบเอเชียจะเห็นเป็นลักษณะตำแหน่ง พระจันทร์ยิ้ม ชัดเจนกว่า ส่วนแถบ
อเมริกา หากถามผู้คนที่นั้นจะงงๆ แม้ตำแหน่งดาวเคราะห์ใกล้กันก็จริง จะมองยากกว่า




เครดิต - http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8130416/X8130416.html

Wednesday, July 29, 2009

10 อันดับเมืองที่มีตึกระฟ้า เยอะที่สุดในเอเชีย

อันดับ ที่ 1



Tokyo เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และอันดับต้นๆ ของโลก โตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีประชากร ตามสัมโนครัวประมาณ 13 ล้านคน
แต่หากนักรวมในจังหวัดโตเเกีัยว และเขตปกครองพิเศษที่เกี่ยวข้อง จะมีประชากร ถึง 25 ล้านคน
ไม่แปลก ที่เมืองนี้จะเป็นศูนย์รวมต่างๆ ของญี่ปุ่น และของโลก


อันดับ 2 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง



ฮ่องกงมีจำนวน ประชากรกว่า 6.99 ล้านคน ในปี 2549 ความหนาแน่นของประชากร 6,300 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนมากป็นชาวจีน มีร้อยละ 3 เป็นชาวต่างชาติ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอเมริกัน ฯลฯ ภาษากวางตุ้งซึ่ง เป็นภาษาที่มีถิ่นพูนตั้งแต่มณฑลกวางตุ้งของจีนเรื่อยมาจนถึงฮ่องกงได้กลาย มาเป็นภาษาราชการของฮ่องกง ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นของภาษาของเจ้าอาณานิคมก็ยังคงเป็นภาษาราชการร่วมซึ่งถูก ใช้พูดมากกว่า 38 เปอร์เซ็นของประชากร ก็เป็นภาษาที่ใช้แพร่หลาย ส่วนภาษาจีนท้องถิ่นอื่นเช่นแต้จิ๋ว หรือจีนแคะฯลฯ ก็มีไม่น้อยเช่นกัน และตั้งแต่ฮ่องกงกลับสู่ใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ การใช้ภาษาจีนกลางใน การติดต่อก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการเข้ามาของชาวจีนแผ่นดินใหญ่และการติดต่อค้าขายระหว่างกัน ถึงแม้ว่าการใช้อักษรจีนนั้นยังนิยมใช้อักษรจีนตัวเต็มอยู่ก็ตาม นอกจากนั้นทางรัฐบาลฮ่องกงได้มีโครงการ "สองแบบอักษร สามภาษา" เพื่อสนับสนุนให้ชาวฮ่องกงใช้ภาษาทั้ง 3 ภาษาร่วมกัน คือภาษากวางตุ้ง จีนกลาง และอังกฤษ


อันดับ 3 เซี่ยงไฮ้



ปัจจุบันเซี่ยงไฮ้กลาย เป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุด ในจีน เต็มไปด้วยร้านค้า สิ่งก่อสร้าง ถนนเต็มไปด้วยรถ จักรยาน และผู้คน สิ่งที่พบเห็นได้มากในเมืองนี้ จนอาจถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ คือต้นเมเปิลที่มีอายุเกือบร้อยปี ซึ่งปลูกโดยในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้ มีประชากร ในเขตเมือง ประมาณ 13 ล้านคน ปริมณทน ประมาณ 20 ล้านคน


อันดับ 4 ดูไบ



ดูไบ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีพื้นที่มากกว่า 4,000 ตร.กม. และมีประชากรประมาณ 1,674,527 คน ดูไบ ถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก


อันดับ 5 ฉงชิ่ง



ฉงชิ่ง หรือ จุงกิง เป็นเขตเทศบาลนคร ตั้งอยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีพื้นที่ติดกับมณฑลหูเป่ย์ หูหนัน กุ้ยโจว ซื่อชวนและฉ่านซี ภายในตัวเมืองมีแม่น้ำไหลพาดผ่านหลายสายเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 8 ของจีน มีเนื้อที่ 82,300 ก.ม.² มีประชากร (พ.ศ. 2548) 31,442,300 คน ความหนาแน่น 379/ก.ม.² จีดีพี (2005) (310) พันล้านเหรินหมินปี้ รวมต่อประชากร 8,540 พันล้านเหรินหมินปี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น


อันดับ 6 กรุงเทพมหานคร



กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย[3] รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร ฯลฯ ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลกอีกด้วย มีแม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ทำให้แบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี (เดิมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเป็นที่ตั้งของกรุงธนบุรี ซึ่งต่อมาภายหลังได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร) โดยกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ทั้งหมด 1,568.737 ตารางกิโลเมตร มีประชากรตามทะเบียนบ้าน ประมาณ 9 ล้านคน และประชากรแฝง และเขตปริมณฑณ ประมาณ อีก 5 ล้านคน


อันดับ 7 ปักกิ่ง



ปักกิ่ง หรือ เป่ย์จิง (Beijing) (ภาษาจีน: 北京 (ข้อมูล), พินอิน: Běijīng) เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีประชากร ราวๆ 27 ล้านคน ทั้งในเมืองและปริมณฑณ


อันดับ 8 เมือง Guangzhou (กว่างโจว )



กว่าง โจว กวางโจว หรือ กวางเจา (จีนตัวเต็ม: 廣州, จีนตัวย่อ: 广州 Guǎngzhōu หรือ Gwong2 zau1 ในภาษาจีนกวางตุ้ง) เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง กว่างโจวเป็นเมืองใหญ่สุดทางภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นมณฑลซึ่ง เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา นอกจากนั้นเมืองกว่างโจวยังมีสำเนียงเฉพาะถิ่นที่ถือว่าเป็นมาตรฐานของ ฮ่องกง และมาเก๊า เรียกว่า สำเนียงกว่างโจวอีกด้วย


อันดับ 9 เมือง Singapore



สิงคโปร์ (อังกฤษ: Singapore) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐสิงคโปร์ (อังกฤษ: Republic of Singapore) เป็นนครรัฐที่ตั้งอยู่บนเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากร ประมาณ 4,839,400 คน


อันดับ 10 เมือง Istanbul



อิสตันบูล (ตุรกี: İstanbul) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย)



ที่มา - คุณ thepowermancity หว้ากอ พันทิป.คอม

Monday, July 27, 2009

10 อันดับ คำถามยอดฮิตเวลาสัมภาษณ์งาน

10 อันดับคำถาม ที่เค้านิยมจะถามกันโดยมากเวลาสัมภาษณ์งาน คุณควรจะเตรียมพร้อม เพราะอย่างน้อย ถ้าไม่ได้คำถามอื่น ก็ยังพอมีคำถามที่เราตอบแล้ว ฟังดูเข้าท่าเข้าทางบ้าง ฉะนั้นคำถามที่คุณควรจะรู้ มีดังต่อไปนี้


1. ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่

การที่จะทำงานทีไหนก็ตาม ผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไมคุณต้องการที่จะทำงานในบริษัทของเค้า และคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณควรทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริง ไม่ไช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้า เช่นคุณอาจจะตอบว่า

" ดิฉันมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มาก และก็ทราบมาว่า ทางบริษัทได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคน ได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ค่ะ และดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอของพนักงานทุกคน และพร้อมจะแก้ไข ถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถพัฒนาให้บริษัทให้มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ"


2. ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่

คำถามนี้จะง่ายมาก สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถามที่ยากมาก สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว และเป็นคำถามที่ตรงประเด็นมากเลยทีเดียว เพราะหากคุณพอใจต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ทำหรอกจริงไหมล่ะ คำถามนี้จึงเป็นคำถามที่คุณ ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น

" ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับตัวผมมากกว่าที่ผมเคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้เหมาะสมกับผม และผมพร้อมที่จะทำงานตรงนี้มากที่สุด"

และที่สำคัญ คุณห้ามนำข้อเสียที่คุณได้รู้จากบริษัทเก่ามาพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งนั้นอาจทำให้คะแนนแห่งความเชื่อถือของคุณลดลงก็ได้


3. ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อๆ

การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญก็จะเป็นเรี่อง ข้อมูลส่วนตัว ประวัติความเป็นมาเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และสามารถบอกถึง ความเหมาะสมกับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของการทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิตบ้างนิดหน่อย คุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น

" ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอ เพราะฉะนั้นเวลาในการ ทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับ คือเวลา ที่ผมรอใคร แล้วคนคนนั้น ไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเอง ไม่ค่อยได้ทั้ง ๆ ที่เหตุผลของเค้า เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ก็ตาม และตอนนี้ผมกำลังหาวิธี เพื่อแก้ไข ข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ"


4. คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด

คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึงความสามารถของคุณ ที่จะทำให้กับบริษัทได้มากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่าเป็นการโอ้อวดว่า คุณเก่งแต่อย่างไร แต่สิ่งที่คุณพูดนั้นจะสามารถสร้างน้ำหนัก ในการตอบคำถามให้แก่คุณได้


5. จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา

เจอคำถามนี้เข้า ก็ทำให้อึ้งเอาการอยู่ทีเดียว ก็แหมใครอยากจะไปทำงานล่วงเวลา หากไม่ได้อะไรตอบแทนบ้างเลย ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึงความพร้อมเสมอ ในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทนอาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลา จะไปตรงกับตารางนัดสำคัญกับคนพิเศษของคุณก็ตาม

"เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงาน ล่วงเวลาเสมอ"


6. เรื่องทั่วๆ ไป

ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึงเรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยม ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าวหนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้ เห็นว่า คุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนนการสัมภาษณ์ของคุณ เพิ่มขึ้นมาก็ได้


7. ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต

เป็น การพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึงทิศทางในอนาคตได้ นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีทีเดียว ก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใครสามารถรู้ได้ คุณยังวางแผนสู่อนาคตได้อย่างเป็นระบบ นั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิดย่ำอยู่กับที่จริงไหม


8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม

คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่า คุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่า คุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะถูกถามต่อว่า หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่านคือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ ยังสามารถได้รู้ถึงความละเอียดอ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบ กระทั่ง การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ อีกด้วย


9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่

เป็นเรื่องที่ยากมากในการตอบคำถามนี้ ถ้าหากว่างานที่คุณไปสมัคร ระบุเงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ระบุถึงอัตราค่าจ้างเลย ก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควรตอบตามอัตราเงินเดือน ที่คนทั่วไปได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อนที่ทำงานเหมือนกับตำแหน่งที่คุณสมัคร หรือตอบตามเงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้ แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์เสนอเงินเดือนมาสูงหรือต่ำกว่าอัตราที่คุณรู้ คุณก็อย่าเพิ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบ เพราะถ้าเกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือก็ได้


10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง แต่ในการตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่า เราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำเรื่องเวลาการทำงานก็ได้

"ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอน ในการทำงานของผมครับ"

หรือ คุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิดสงสัยจริงๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด





เครดิต - daradaily

Friday, July 24, 2009

10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก

เริ่มจากอันดับ 10 กันเลยครับ Altocumulus Castelanus
เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆเหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ




อันดับ 9 Nacreous
เมฆ นี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆที่แสงอาทิตย์ส่องผ่าน เป็นเวลา2ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้




อันดับ 8 Mammatus Clouds
เมฆ ลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่าหว่า จริงๆแล้ว เมฆนีไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้วต่างหากล่ะ




อันดับ 7 Mushroom Clouds
เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่ เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์




อันดับ 6 Noctilucent Clouds
เมฆ ตามชื่อ คือ เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆใกล้ๆขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้




อันดับ 5 Cirrus Kelvin-Helmholtz
เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3นาที แล้วจากนั้นก็เละ เรียกว่า เป็นความบังเอิ๊ญบังเอิญจริงๆ




อันดับ 4 Lenticular Clouds
เกิดจากหลายองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้(แต่บางครั้งก็เหมือนUFOนะ หรือว่า.....!?????)




อันดับ 3 Roll Clouds
เป็น เมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่




อันดับ 2 Shelf Clouds
ลักษณะ คล้ายๆกับอันดับ 2 แต่อันนี้ไม่ได้เป็นการม้วน แต่เป็นชั้นๆเหมือนที่กำบัง(บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก)และจะมาเป็นแนวตั้ง นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่ อย่างกับในหนังเลยครับ พยาุกระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆและการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว




อันดับ 1 Stratocumulus Clouds
เมฆ แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆๆๆๆๆๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ และเผอิญว่าเส้นยาวๆจะแบ่งเป็นช่วงๆซะด้วย ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่ม




ที่มา - fwd.mail

Thursday, July 23, 2009

10 อันดับ เมนูอาหารแปลกๆ พิศดารทั่วโลก มาเสริฟแล้วจ้า

บางเมนู ก็เป็นความเชื่อของคนในท้องถิ่น หรือประเทศนั้นๆ แปลกของเรา แต่ธรรมดาของเขา คงเอาความรู้สึกไปตัดสินไม่ได้ โดย เฉพาะอันดับ 1 ขนาดรูปประกอบเป็นรูปวาด แต่อ่านคำบรรยายแล้ว จ้างเป็นล้านก็คงไม่กิน (ถ้าซักร้อยล้าน อาจรับพิจารณา ทนกินซักคำ เพื่อเงิน)

ปล.เอามาให้ชมประดับความรู้ และเปิดมุมมองใหม่ๆ แต่อาหารบางชนิดมีผู้เชี่ยวชาญระบุแล้วว่า อาจมีเชื้อโรคอยู่มาก และ ไม่ได้บำรุงกำลังอะไรมากมายอย่างที่เชื่อกัน เพราะฉะนั้นดูสนุกๆ ดีกว่า อย่าลองเลยเนอะ


เริ่มกันที่ อันดับ 10 หนู



เป็นอาหารสุดฮิตของอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศยากจนอย่าง เปรู ปารากวัย หนูคือแหล่งโปรตีนสำคัญที่เดียว และเป็นเมนูหลักๆ ของร้านอาหาร และภัตตาคารใหญ่ๆ โดยชาวปารากวัยต่างลิ้มลองเชื่อว่าการกินหนูจะช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้น ผิวเนียนอีกต่างหาก ซึ่งหนูตัวใหญ่เขาจะมาย่างเป็นหนังกรอบหอมเสริฟแบบแฮมเบอร์เกอร์เลยที่เดียว ส่วนหนูทารกตัวสีชมพู แดงๆ ก็จะหย่อนหนูเป็นๆ ลงท้องทันทีตามด้วยนมสดสักแก้ว หรือไม่ก็จะอร่อยแบบศิวิไลหน่อยก็จับลูกหนูใส่ในขนมปังหรือกล้วยหอมแล้วยัด ใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ ร้องจิ๊ดๆ เป็นอันอร่อยเหาะ


อันดับ 9 สตูค้างคาว



อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ประเทศที่กำลังเจริญกว่าไทยน่ะแหละ ขายดิบขายดี แถมยังหรูและหายากมาก โดยเฉพาะเมืองหลวงไซ่งอนน่ะมันอยู่ในระดับภัตตาคารหรูเท่านั้น ซึ่งชาวเวียดนามเชื่อกันว่าเนื้อค้างคาวคือราชันย์แห่งเนื้อทั้งปวง การกินน่ะหรือ ทำได้หลายวิธี เช่นทำซุป หรือนำมาสับเป็นชิ้นๆ เคี้ยวเป็นสตู หรือไม่ก็ใช้มีดคมๆ ตัดหัวค้าวคาวทันที จากนั้นก็รีดเลือดที่หยดจากร่างไร้หัวใส่แก้วเปล่าแล้วดื่มกินสดๆ ทันที


อันดับ 8 สตูว์เนื้อหมาดำ



พูดถึงเอเชียก็ต้อง เนื้อหมา กินกันทั้งเกาหลี เวียดนาม ไทย แต่ถ้าจะหาประเทศที่กินเนื้อหมาได้มีลีลาเด็ดอร่อยก็ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของเรานั้นเองเพราะพี่เพื่อนบ้านแกทำหลายเมนูมาก โดยเฉพาะเนื้อหมาดำว่ากันว่ามีรสอร่อยกว่าเนื้ออื่นๆ ทั้งปวง แถมนุ่มกว่าเนื้อหมาสีอื่นๆ ทำให้เวลานี้หมาดำชักจะหายจากถนนและบ้านเรือนของอินโดนีเซียไปแล้ว


อันดับ 7 หัวแกะสด-ต้ม



จากหลายประเทศรอบทะเล เมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมนูที่คุ้นเคยอย่างยิ่งของชาวเมืองแถบนั้นว่ากันว่าหัวแกะถือว่าเป็น อาหารสุดยอดของแกะ เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของชาวยิวที่เรียกว่า รอช อาแชน่า หัวแกะถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับความหมายที่ว่า ใครก็ตามได้กินหัวแกะนั้นจะได้รับโชคดีในวันปีใหม่ที่จะมาถึง แต่ถ้ากินลูกนัยตาของลูกแกะเข้าไปย่อมโชคดีมากขึ้นไปอีก ส่วนรสชาติหลายๆ คนให้ความเห็นว่า “เค็มเหลือเกินพับผ่า”


อันดับ 6 ขนมพายครีบแมวน้ำ



ชาวนิวฟาวด์แลนด์กินพายที่มาจากครีบแมวน้ำนั้นถือว่าเป็นสิ่งวิเศษ และต้องกินก็ได้ถ้ามีโอกาส และด้วยเหตุนี้ส่งผลให้แต่ละปีจะมีแมวน้ำมากมายมหาศาลต่างถูกจับตัวขึ้นมา ตัดครีบทั้งสองข้าง จากนั้นก็ถีบลงเรือและปล่อยให้จมน้ำตายในทะเลไปอย่างน่าสมเพชที่สุด ในภัตตาคารใหญ่ๆ หลายต่อหลายแห่งก็มีเมนูชนิดนี้เปิดขายทั้งแบบปกปิดและเปิดเผย เพราะนานาประเทศยังต่อต้านเมนูนี้อยู่


อันดับ 5 สมองลิงแสนสนุก



วิธีการทำและการกินก็ ง่าย ก็เอาลิงพันธุ์อะไรก็ได้แล้วแต่มีให้ มาหนีบกับโต๊ะโดยมีส่วนหัวด้านบนโผล่ออกมา จากนั้นพ่อครัวก็ใช้วิชาบาร์เบอร์โกนขนส่วนบนของลิงออกจนเกลี้ยงเกลาจากนั้น ก็ใช้สิ่วและค้อนเฉาะกะโหลกของลิงออกคล้ายกับกะเทาะมะพร้าวอ่อน และแล้วลูกค้าก็จะรีบตักกินสมองลิงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปสมองลิงจะยุบและลดปริมาณอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งเขาก็เสิร์ฟสมองลิงแบบแช่แข็งไว้ด้วย เพื่อลดภาระสมองลิงหดตัวอย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง


อันดับ 4 ปลาสองแผ่นดิน



เมนูนี้สามารถหากินได้จากประเทศจีนหรือไทยก็ได้ครับ วิธีการทำต้องใช้ฝีมือหน่อย เริ่มจากนำมาเก๋าขนาด 2 ก.ก. มาขอดเกล็ดออกให้หมดแล้วนำมาล้าง ก่อนจะใช้ผ้าเย็นที่แช่เย็นจัดพันส่วนหัวจนถึงพุงปลา แล้วก็ใช้มีดบั้งตัวปลาตั้งแต่ส่วนหางขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว ระหว่างนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้เดือดเต็มที่ แล้วก็นำหางปลาช่วงที่บั้งจุ่มลงไปทอดครึ่งตัว ซึ่งเป็นภาพที่หวาดเสียวมาก เพราะปลาจะดิ้นตลอดเวลาด้วยความเจ็บปวด ต้องใช้คีมคีบที่หัวปลาเอาไว้ รอจนเนื้อปลาสุกเป็นสีเหลือง ก็ยกขึ้นนำมาวางบนจานแต่งด้วยเครื่อง ยกเสิร์ฟโดยครึ่งบนปลายังเป็นๆ อยู่ อ้าปากพะงาบๆ ครีบยังกระดิกได้ แต่ครึ่งล่างทอดจนสุก กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและซอสเปรี้ยว โดยคนจีนเชื่อว่าการทานปลาสองแผ่นดินเป็นยาชูกำลัง ให้กินมากๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงน่ะจะบอกให้ เชื่อไหม


อันดับ 3 อุ้งตีนหมี



เป็นอาหารที่นักเปิบมหาภัย ชอบมากและเป็นเมนูสุดโหด เพราะการตัดอุ้งตีนหมีนั้น ไม่สามารถตัดขณะที่หมียังมีชีวิตได้ การฆ่าหมีเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหนังหมีจะหนามาก ยากต่อการฆ่า ดังนั้น ผู้ฆ่าจึงจับหมีถ่วงน้ำทั้งเป็น หมีความส่งเสียงร้องดังโหยหวนเมื่อถูกตะขอเหล็ก เกี่ยวร่างออกจากกรงขัง ไม่กี่นาทีต่อมามันก็ตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อถูกกระสอบสวมคลุมร่าง นักท่องเที่ยวจะยืนมองวินาทีสุดท้ายของหมีควายโชคร้ายในถังเก็บน้ำใบเขื่อง ด้วยสายตาเฉยชา หลังจากร่างใหญ่ดิ้นพราดๆ อยู่เพียงครู่ ทุกอย่างก็สงบลง เพชฌฆาตรีบลงมีดเลือดสดๆ ไหลทะลักจากคอหมีลงสู่ถ้วยขนาดย่อม เลือดในถ้วยถูกผสมด้วยเหล้าขาวแล้วเวียนกันดื่ม หลังจากยืนดู การชำแหละอุ้งตีนหมีเสร็จสิ้น นักท่องเที่ยวจึงกลับไปที่โต๊ะ นั่งรออาหารจานเด็ดที่เชื่อว่าจะช่วยทำให้คนแข็งแกร่งในกามกรีฑา ดุจเดียวกับความแข็งแรงของอุ้งตีนหมี


อันดับ 2 ซุปตัวอ่อนมนุษย์



เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงน่ะครับ เพียงแต่รูปที่นำมาเป็นของจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมนูนี้เป็นอาหารเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นน่ะครับ มันมีขายอยู่ที่เฉินเซ่น ประเทศจีน การกินตัวอ่อนของมนุษย์ หรือทารกที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นความเชื่ออย่างลับๆ ว่า จะช่วยเพิ่มคุณค่าอาหารหลายอย่างในหมู่ชาวจีน นั้นก็คือทำให้ผิวสวยเนียน ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรค และที่เชื่อกันมากก็คือช่วยบำรุงไตได้ดีสำหรับวิธีการทำก็ไม่ยากเท่าไหร่ แค่เอาเด็กทารกแรกคลอด หรือเด็กที่ตายจากการทำคลอด ยิ่งเป็นเด็กผู้ชายยิ่งดี(เขาบอกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง) มาสับ มาเคี่ยวเป็นซุปและใส่เนื้อหมูลงไปเป็นอันเสร็จ………..รสชาติเหมือนซุปสมุนไพร อย่างไรก็ตามการนำเด็กทารกมาทำตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่ประเทศจีนนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้เมนูนี้ ต้องมีการสั่งเป็นพิเศษ หรือไม่ก็แอบทำให้กับพวกที่อยากรับประทานอาหารแบบพิสดาร แบบนี้


อันดับ 1 เนื้อมนุษย์ที่ปาปัว นิว กินี



และก็ มาถึงอันดับหนึ่งของเรา ที่ปาปัว นิว กินี เวลามีใครตายขึ้นไม่ว่าจะเป็นญาติของตน หรือคนต่างเผ่าที่ตกอยู่ในครอบครองของตน เขาจะไม่นำศพไปฝังหรือเผา แต่จะนำศพไปไว้บนตะแกรงที่ยกพื้นสูงขนาดท่วมหัว ปล่อยให้ศพอยู่ในสภาพนั้นจนขึ้นอืด เกิดน้ำเหลืองเยิ้มไปทั้งตัวดีแล้ว ก็จะเข้าป่าหาใบไม้ที่เป็นเครื่อง เทศเอามาพับเป็นกระทงเล็กๆ (คงอย่างที่เตรียมใบชะพลูจะกินกับเมี่ยง) เหมาะที่จะมีขนาดกินคำเดียว แล้วก็เชิญพรรคพวกเพื่อนฝูงให้มารวมกันอยู่ใต้ตะแกรงศพนั้น นำเอาไม้ปลายแหลมแทงศพให้เป็นรู ให้น้ำเหลืองไหลย้อยออกมา นำกระทงใบไม้ที่เตรียมไว้ รองรับน้ำเหลืองนั้น พอได้มากดีแล้วก็กินทั้งน้ำเหลืองและใบไม้ กินกันจนไม่มีน้ำเหลืองแล้วก็นำศพนี้ไปต้มซุปกับผักต่างๆ กินกันต่อไป แต่ถ้าจะกินมนุษย์ที่สะใจที่สุดต้องยกให้ชนเผ่า โดโบดูรัส นิยมจับเหยื่อที่ล่ามาได้มากินแบบเป็นๆ นั้นคือต้องทรมานเหยื่อจนใกล้จะตายแต่ไม่ให้ถึงตาย จากนั้นก็เจาะกะโหลกให้เป็นรูลึกๆ เสียก่อน แล้วค่อยสอดไม้เล็กๆ ที่มีปลายแบบชอนเข้าไปตักสมองออกมากิน เหยื่อก็ดิ้นไปดิ้นมา ดูแล้วน่ารักอย่างยิ่ง...



ที่มา จากคุณ ปฏิจจสมุปบาท ห้องหว้ากอ พันทิป

10 อันดับสิ่งผลิตยอดแย่

พาไปชมสิ่งผลิตที่ไม่รู้จะทำออกมาขายทำไม อ่านไปก็ฮา... มาดูกันนะ


อันดับ 10 ถุงใส่สุนัขแบบพกพา



เคยใช่มั้ยที่ต้องการจะพาสุนัขนั่งรถไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วย แต่ดันแพ้ขนมันซะงั้น.. งั้นขอแนะนำ "ถุงใส่สุนัขแบบพกพา" หลังจากนี้คุณสามารถพาเพื่อนที่ดีที่สุดของเราไปไหนด้วยก็ได้ เพียงห้อยตะขอเกี่ยวถุงนี้ไว้กับหน้าต่างด้านนอกประตูรถ.. ความปลอดภัยงั้นเหรอ จะมีอะไรปลอดภัยไปกว่าอยู่ในถุงล่ะ -_-"


อันดับ 9 วิกแมวเหมียว



รู้สึกใช่มั้ย ว่าการแต่งตัวให้เจ้าเหมียวนี่มันช่างยากเหลือกัน แต่กับวิกแมวเหมียว มันง่ายมากๆ ดูรายละเอียดได้ที่ www.kittywigs.com



อันดับ 8 นิ้วสัมผัส iPhone



บริษัทหนึ่งในออสเตรียได้ผลิตของชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อให้การใช้งาน iPhone ของคุณลื่นไหลอย่างไม่มีปัญหา มีให้เลือกหลายขนาดด้วยนะ



อันดับ 7 จักรยานเก้าอี้รถเข็น



ถึงแม้คุณจะยืนไม่ได้ แค่คุณก็ยังขี่จักรยานได้...
(พูดไม่ออกเลยตู ขาใช้ไม่ได้แล้วจะถีบจักรยานยังไงฟะ -_-")



อันดับ 6 กระดานปาเป้าเป่าลม



สุดยอดกระดานปาเป้าสำหรับผู้ที่ไม่มีที่เก็บของมากนัก และต้องการเล่นเกมอย่างรวดเร็วหรือแค่เกมเดียวก็พอแล้ว ก่อนใช้เพียงแค่นำกระดานปาเป้ามาเป่าลมก็พร้อมใช้งานแล้ว อ้อไม่ต้องหวงนะ เราเตรียมชุดซ่อมรอยรั่วมาให้เรียบร้อยในชุดแล้ว...



อันดับ 5 iFlyz Portable Media Player Airline Holder

Bag of peanuts? $3.50. Toilet entrance fee? Pending. Hands-free iPhone viewing device ready to use even in the "stowed and locked position?" Priceless (i.e., $29.95 with shipping).
Click here for more. http://www.iflyz.com/About.html


อันดับ 4 Battery-Powered Battery Charger
Motorola's P970 was Zen-like in its simplicity — a rechargeable battery that recharged your cell phone's battery via a mini USB port. Too bad it's no longer on the Motorola Web site.
Click here for more.http://www.impactlab.com/2006/10/14/the-battery-powered-battery-charger/


อันดับ 3 Method for Collision Recognition With a Pedestrian
After a hit-and-run accident, it might be nice to be able to know whether you hit a person or a traffic cone — not that there's a difference or anything.
Click here for more.http://www.freepatentsonline.com/6784792.html


อันดับ 2 Anti-Eating Face Mask



Essentially a metal cage that attaches to your face to prevent those of us lacking any self-control from ingesting solid foods, the Anti-Eating Face Mask is pretty straightforward, but there must be easier ways of losing that extra winter weight.
Click here for more.http://www.funnypatentsandinventions.com/anti-eating-face-mask-great-idea


อันดับ 1 The Prankster Fire Alarm Trap



Coming straight out of the February 1938 issue of Modern Mechanix magazine, the prankster-proof fire alarm traps the hand of any offender in a metal handcuff until the fire brigade arrives to release him. Perfect for fake fires, but in the event of a real blaze, you're taking one for the team.
http://blog.modernmechanix.com/2006/11/30/fire-box-traps-pranksters/

Wednesday, July 22, 2009

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก

อันดับ 10 สุสานมัมมี่ ปานาโม อิตาลี (LAS CATACUMBAS DE LOS CAPUCCINOS)



เป็น สุสานใต้ดินเก่าแก่ตั้งอยู่ในใต้อารามนักบวชคาปูชิน แห่งโบสถ์ฟรานซิสกัน ของคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก ที่เมืองปาร์เลอโม (PARLEMO) เกาะซิซิลี ที่นี้มีซากมัมมี่กองเต็มไปหมด จะเป็นชุมชนแออัดอยู่แล้ว ถึงขนาดที่บางศพที่มาทีหลัง ไม่มีที่ให้ยืนสบายๆ ต้องถูกแขวนไว้กับตะขอ บนผนังโน่น และถ้าเดินเข้าไปก็จะเจอแต่ศพนั่ง.....นอน...... ยืน...... และเดิน เอ๊ย เดินไม่มี บางตัวละยังคงสวมเครื่องแต่งกายเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตด้วย มีมัมมี่เด็กด้วยนะ เป็นผู้หญิงอายุ 8 ขวบชื่อโรซาเลีย ลอมบาร์โด (ROSALIA LOMBARDO) ที่ดองไว้70 - 80 ปีแล้วด้วย หน้าตายังน่ารักเหมือนคนนอนหลับเลย สถานที่นี้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว(จะมีคนไปเหรอ) จำกัดเวลาครับ อยากไปร้องถามไถ่ดูละกัน


อันดับ 9 อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L’Alma)



สถาน ที่เจ้าหญิงไดอาน่าประสบอุบัติเหตุอุบัติเหตุรถคว่ำ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540 และยังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลกว่าอุบัติเหตุหรือ ถูกฆาตกรรม เพราะในคืนที่เกิดโศกนาฏกรรม มีการเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิม คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย และทำไมวิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีส ไม่สามารถใช้การได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับการช่วยเหลือเพื่อรักษา พระชนม์ชีพของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที
เป็นความบังเอิญจริงหรือ? ใครๆ ที่ไปเที่ยวที่อุโมค์ฝรั่งเศสแล้ว ใครๆ ก็ว่าบรรยากาศมันน่ากลัว


อันดับ 8 เทือกเขาร็อกกี้ โคโลราโด (Colorado Rockies)



ที่ สยองคือภูเขานี้เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น เป็นเรื่องของมนุษย์กินคน ที่ไม่ใช่คนป่า ปี 1874 ในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด คณะนักสำรวจหกคนได้ขุดอุโมงค์ในหุบเขาโคโลราโด ต่อมาอุโมงค์เกิดถล่ม การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และต่อมา ฤดูใบไม้ผลิมีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดกลับมาจากหุบเขาโคโลราโด อยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เขาคนนี้มีนามว่าอัลเฟร์ด แพคเกอร์ และเมื่อเขาออกมาก็ถูกจับเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากินเพื่อนของเขาสองคนเพื่อ มีชีวิตรอดเพราะอาหารหมดและเพื่อนก็ตายไปทีละคนทีละคน เขาเลยอดใจไม่ไหวกินเป็นอาหารเสียเลย ถ้าคุณอยากลองเป็นหรืออยาก รู้ว่ายังไงกับมนุษย์กินคนเป็นยังไง เทือกเขาร็อกกี้ก็พร้อมต้อนรับท่านไปเป็นมนุษย์กินคนอย่างยิ่งด้วยความหนาว และความตาย


อันดับ 7 หมู่เกาะปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea)



ปาปัว นิวกินีเป็นเกาะอยู่ทางเหนือ ของทวีปออสเตรเลีย ประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆมากกว่า 700 เผ่า แต่ละเผ่าต่างคนต่างอยู่ การเดินทางไปมาหาสู่กันลำบากมาก เพราะพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และใครอยากเห็นมนุษย์กินคนก็ต้องเข้าไปลึกหน่อยนะ โชคดีอาจไปทันตอนคืนพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะ และกินซุปเนื้อมนุษย์ วิธีปรุงอาหารรายการนี้ง่ายมาก นำน้ำใส่หม้อดินขนาดใหญ่ต้มให้เดือด บั่นศพมนุษย์ที่ตายทั้งสองฝ่ายให้มีขนาดที่จะใส่ในหม้อนั้นได้ใส่ลงในหม้อ นำผักชนิดต่างๆ รวมทั้งมันและเผือกใส่รวมลงไปด้วย ต้มจนสุกและเปื่อยดีแล้วก็ตักออกมากินกัน ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็มัดไว้ก่อนและค่อยๆ ฆ่าให้ตาย นำมาปรุงเป็นอาหาร กินเลี้ยงกันในคืนต่อๆ มารองเท้าหนัง ถุงเท้า ตลอดจน เสื้อผ้าก็ถูกนำมาต้มจนเปื่อย และกินจนหมดสิ้นเช่นเดียวกัน สำหรับหัวกะโหลกเก็บไว้ เป็นเครื่องประดับตามบ้านเรือนสวยงามมาก แต่ปัจจุบันใครไปอาจอดเจอซุปเนื้อคนเพราะตอนนี้เขาเลิกแล้วเพราะกฎหมายออกมาว่าห้ามกินเนื้อคนไม่ว่าศัตรูหรือนักท่องเที่ยว! แฮ่


อันดับ 6 โรงงานนรก “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz)



สยอง ที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz)ที่ใกล้เมืองเอาชวิตซิน โดยค่ายนี้สร้างขึ้นเพื่อสังหารชาวยิวด้วย การรมแก๊สพิษและเผาในเตาเผา โดยมีเหยื่อที่โดนถึง 1 ล้านสองแสนคน จากที่ต่างๆ ทั่วยุโรป จํานวน 22 ล้านคน ไปที่ค่าย โดยขนไปทางรถยนต์ รถไฟ และเรือเดินสมุทร และปัจจุบันสภาพยังเหมือนเดิมทุกประการไม่ว่าเตารมแก๊ส เตาเผา ค่ายพัก คุก มีกลิ่นแห่งความตายติดมาด้วย พร้อมกับความวังเวง เมื่อท่านไปก็อาจเจอผีชาวยิวที่ไม่ไปเกิดอีก ได้สองเด้ง ปัจจุบัน เอาชวิตซ์เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีนักท่องเที่ยวสนใจมากที่สุด แห่งหนึ่งของ โปแลนด์ ซึ่งพยายามรักษาสภาพ เอาชวิตซ์ให้ใกล้เคียง สภาพเดิมให้มากที่สุด


อันดับ 5 ปอมเปอี (Pompei)



ปอมเปอีเมืองเก่า สมัยกลาง ตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ของคาบสมุทรอิตาลี ริมอ่าวเนเปิล เมืองนี้เป็นชุมชนขึ้นมาก่อนคริสต์ศักราช โดยอยู่ใต้อิทธิพลของกรีก ต่อมาราว 80 ปีก่อนคริสตกาลกลายเป็นเมืองตากอากาศฤดูร้อนของชาวโรมันหลังตกเป็นอาณานิคม ของอาณาจักรโรมัน กระทั่ง ถูกภูเขาไฟระเบิดถล่มทั้งเมือง ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สยองขวัญมาก เค้าหล่อรูปคนตายในท่าที่ถูกลาวาทับไว้ ก็เลยเป็นสถานที่แสดงท่าหนีตายของชาวเมืองไปเพราะวปอมเปเอียนและสัตว์เลี้ยง แข็งเป็นหินคงสภาพเกือบทุกประการ รวมถึงความหวาดกลัวต่อความตายที่ยังตราติดอยู่บนดวงหน้า บางซากนั่งเอามือปิดหน้า บางซากซบอยู่กับกำแพง ปอมเปอีจึงได้อีกชื่อว่า "ซากเมืองแห่งความตาย" ปัจจุบันเมืองโบราณปอมเปอีได้รับการฟื้นฟู องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997


อันดับ 4 คุก และหอคอยลอนดอน (Tower of London)



หอคอย ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเทศอังกฤษ สถานที่เกิดเหตุแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 900 ปี นองเลือด ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เคยเป็นป้อมปราการ, ปราสาทราชวัง, คุก แดนประหาร เป็นสถานที่ตัดหัวของแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ทุกวันนี้วันดีคืนดียังมีคนเห็นแอนน์ โบลีนถือหัวและร้องครวญอย่างทรมาน ไม่รวมกับอีกหลายวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ในหอคอยแห่งนี้ซึ่งมักจะส่งเสียง ร้องขอชีวิต หรือเสียงลากโซ่ตรวนให้ผู้คนได้ยินและปรากฎให้เห็นเป็นระยะๆ จึงทำให้ที่นี่ยังคงโด่งดังเรื่องความหลอนตลอดกาล ปัจจุบันหอคอย ลอนดอนเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารและหอคอยหลายหลัง ที่เก็บเครื่องมือทรมานและเครื่องมือประหารนักโทษแบบโหดๆ ของยุคกลาง และมีอีกาดำด้วย ดูแล้วก็น่ากลัวจริงๆแหละ


อันดับ 3 ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย โรมาเนีย



ปราสาท ที่เป็นแหล่งที่มาของนิยายผีดูดเลือด แดรกคิวล่า ที่ว่าน่ากลัวคือเจ้าชายจอมเสียบ วลาด ดารคูลา ผู้เป็นเจ้าของปราสาท แกชอบเอาจับเอาเหล่าเชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั้นเลย .....อืมอร่อย ส่วนปราสาท ปัจจุบันยังอยู่ครับ แต่...........มันทำไมอยู่สูงจัง ใครจะไปก็อดทนหน่อยล่ะ ปีนขึ้นไปดูเอง (ล้อเล่น เขาทำบันไดให้ปีนแล้วจ้า)


อันดับ 2 อัลคาแทรซ, ซานฟรานซิสโก (Alcatraz)



นี่ คือคุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา อัลคาแทรซ (Alcatraz) สถานที่คุมขัง อัลคาโปน เจ้าพ่อชื่อดัง และภายในคุกสยอง วังเวงจริงๆ และได้ฉายาว่าเดอะร็อกเป็นคุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ ถึงแม้จะมีนักโทษพยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็กและแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเขามีชีวิตรอดไปได้ นักโทษหลายคนตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ และนี่เองเป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน และความรู้สึกถูกจ้องมอง ปัจจุบันคุกนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว สามารถค้างคืนได้ด้วยนะจะบอกให้


อันดับ 1 อนุสรณ์สถานแห่งคิลลิ่ง ฟิลด์ (Killing Field)



ใคร จะว่าไงไม่รู้ แต่ผมยกให้สถานที่นี้คือสุดยอดที่สุดแล้ว เพราะมันอยู่ใกล้บ้านเรา กัมพูชาเองจ้า เลิกซะทีเถอะข้ามพรมแดนไปเล่นการพนัน หันมารู้ประวัติศาสตร์ที่แสนโหดร้ายกันบ้างกับ โดยสถานที่นี้เป็นอนุสรณ์รำลึกความโหดร้ายในยุคเขมรแดงที่นำโดยเฮียพอลพต ที่สั่งฆ่าชาวเขมรนับล้าน ศพมากมายนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นกะโหลกไร้ญาติ(ไม่สามารถระบุได้ว่าคนตายเป็นใคร) ได้ถูกนำมารวมไว้ที่นี้ และมีรูปผู้ตายที่นับล้านให้ดูไว้ให้สงสาร คืนดีคืนดีบางคืนอาจได้ยินเสียงกะโหลกร้องระงม ฟังแล้วได้บรรยากาศมาก อีกที่ก็ ตุล สาเลช คุกเถื่อนซึ่งในอดีตเป็นโรงเรียนมัธยม ที่นั้นมีคนมาถูกฆ่าไม่เว้นวันและบางรายถูกนำมาทรมานเยี่ยงสัตว์ ก่อนตายอย่างสยอง


Credit: คุณ manmomin พันทิป หว้ากอ