ไม่รู้กลายเป็นตำนานหรือบทบังคับที่บันทึกอยู่ในตำรา วิชาคนดังเบื้องต้นว่า ถ้าเป็นดาราหรือโด่งดังเมื่อไร ห้ามลืมเรียกร้องสิทธิแบบที่พิเศษซู้ด..ที่สุด แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สำหรับบรรดาคนในวงการที่ต้องคอยจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาอยากได้ เพราะถ้าขัดใจขึ้นมา มีหวังว่าบรรดาซูเปอร์สตาร์ได้มีอาการวีนแตกกันแน่ มาดูกันนะคะว่า คนดังคนไหนจะมีความต้องการสูงมากพอที่จะติดอันดับสิบสุดยอด
อันดับ 10.....เจอร์รี่ ฮัลลิเวลล์ [Geri Halliwell]
นัก ร้องสาวหนึ่งในอดีตสมาชิกสไปซ์เกิร์ล แต่ตอนนี้เธอผันตัวเองมาเป็นนักร้องเดี่ยวแล้ว และถึงแม้ว่าความดังของเธอจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าสมัยก่อน เธอก็ยังรักชีวิตที่หรูหราอยู่ดี
ตำนานความเรื่องมาก
เมื่อคราวที่เธอต้องไปร้องเพลงปลอบขวัญบรรดาทหารอังกฤษ ที่ประจำการอยู่ที่แถวตะวันออกกลาง เธอร้องขอไม่มากหรอก แค่เต็นท์พักผ่อนที่ติดเครื่องปรับอากาศภายใน ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยนมถั่วเหลือง และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถต่อเข้าอินเตอร์เน็ตได้ เธอจะนำน้องหมาคู่ใจไปด้วยทุกที่ แม้แต่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ในชุดสูทก็เถอะ ระหว่างการถ่ายทำรายการ "Pop Idol" ในประเทศอังกฤษ (รายการที่ผู้ชมทางบ้านแข่งกันร้องเพลงคล้าย The Star) เธอตอบตกลงที่จะเป็นดารารับเชิญในรายการ หากเธอเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องมุมกล้องที่ถ่ายเธอเองทั้งหมด เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังห้ามไม่ให้ผู้เข้าประกวดร้องเพลงของเธออีกด้วย (ไม่รู้เหมือนกันว่า เธอกลัวว่าเสียงของคนอื่นจะฟังดีกว่ารึเปล่า) ในงานคอนเสิร์ตรวมนักร้องครั้งหนึ่ง เจอร์รี่พักอยู่ที่โรงแรมดังของเมือง โดยเธอได้เช่าทุกห้องที่อยู่ชั้นเดียวกับเธอ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะสาเหตุเดียว คือเธอไม่ต้องการดินชนกับบรรดานักร้องคนอื่น (ที่เธอไม่ค่อยจะถูกชะตาด้วย)
*** คะแนนความเรื่องมาก = 60% ***
อันดับ 9.....รอบบี้ วิลเลี่ยมส์ [Robbie Williams]
นัก ร้องดังที่เริ่มต้นอาชีพจากวงดนตรีสุดฮ้อต (เมื่อสิบปีที่แล้ว) ตอนนี้เขากลายเป็นน้องร้องเดี่ยวที่มีลีลาเป็นของตัวเอง และงานเพลงของเขาเคยสร้างผลงานติดอันดับท็อปจำนวนมาก ทำให้ร็อบบี้ได้รับการดูแลอย่างดีในทุก ๆ ที่ที่เขาไป
ตำนานความเรื่องมาก
เมื่อ คราวที่ร็อบบี้ไปเวียนนา เขาได้เช่าห้องทั้งหมดในโรงแรมรวม 71 ห้อง เพื่อเขาจะได้อยู่อย่างสงบและไม่มีการรบกวนจากบรรดาแฟนเพลง ร็อบบี้เคยปฏิเสธที่จะออกเดินทาง ถ้าบรรดาผู้ติดตามของเขามีไม่ครบหมดทั้ง 140 คน เขาเรียกร้องให้ผู้จัดงานเตรียมห้องแต่งตัวไว้ให้เขา โดยให้มีของเหล่านี้อยู่ในห้องด้วย บาร์ค็อกเทลพร้อมเครื่องดื่มโปรดของเขา ต้นบอนไซและโปสเตอร์ดารานำ หนังที่เขาชื่นชอบตั้งแต่เด็ก
*** คะแนนความเรื่องมาก = 64% ***
อันดับ 8.....นาโอมิ แคมป์เบลล์ [Naomi Campbell]
ใน วงการสุดยอดนางแบบ ไม่มีใครไม่รู้จักเธอเพราะเธอเป็นซูเปอร์โมเดลผิวหมึกระดับแนวหน้า ที่บรรดาดีไซเนอร์ชื่อดังของโลกต่างก็ต้องการตัวกันทั้งนั้น
ตำนานความเรื่องมาก
เมื่อ ปี 1998 ชื่อเสีย(ง) นาโอมิดังใช้ได้ทีเดียว เมื่อเธอยอมรับเคยใช้กำลังลงมือลงไม้กับผู้ช่วย ถ้าเขาทำให้เธอโมโหสุด เป็นอันรู้กันดีในวงการว่านาโอมิมักจะมาสายกว่าเวลาที่นัดเป็นประจำ เมื่อปี 1993 เธอเคยถูกไล่ออกจากเอเจนซี่ชื่อดัง Elite เหตุก็เพราะบรรดาพนักงานต่างก็ไม่มีใครสามารถทำงานกับเธอได้ นอกจากนั้นเธอเป็นเจ้าวางแผน อารมณ์เสียง่ายและก็หยาบคาย เธอจะทำกับพวกเราเหมือนข้าทาสเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรนาโอมิก็ทำให้เอเจนซี่ใจอ่อนทีหลัง และทั้งสองก็คืนดีกัน เมื่ออยู่หลังเวที เธอมักจะมีชื่อในด้านการสร้างความโกลาหลให้กับพนักงาน เพราะเธอจะกรีดร้องสุดเสียง หากมีใครทำอะไรให้เธอไม่พอใจ
*** คะแนนความเรื่องมาก = 72% ***
อันดับ 7.....คริสทีน่า อากีเลร่า [Christina Aguilera]
นักร้องเพลงป๊อปสุดแสนจะเซ็กซี่ที่มีเพลงติดชาร์ทอยู่หลายเพลง และเจ้าของสไตล์การแต่งตัวที่ไม่ค่อยมีบรรดาแฟนเพลงแต่งตามเท่าไร
ตำนานความเรื่องมาก
คริ สทิน่าเกลียดรถติดเป็นที่สุด เธอไม่ยอมติดแหง็กอยู่บนถนนที่รถติดไม่ขยับแน่ ๆ เพราะอย่างนั้นเลยต้องมีรถตำรวจวิ่งนำขบวนของเธอทุกครั้ง เวลาที่ต้องเดินทางไปสถานที่จัดคอนเสิร์ต ในจำนวนของที่เธอเรียกร้องในห้องพักหลังเวที มีตั้งแต่ชีสหายากราคาแพงไปจน ถึงวิตามินลายการ์ตูนที่เธอชื่นชอบ ระหว่างการแสดงในไนท์คลับแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน คริสทิน่าเคยเรียกร้องไม่ให้ทุกคนสูบบุหรี่ (รวมถึงบรรดาผู้ชม) เจ้าหน้าที่ต้องวุ่นวายกับการกำจัดกลิ่นบุหรี่ให้หมดไปก่อนนั่นล่ะ คริสทิน่าถึงจะยอมก้าวเท้าขึ้นเวที
*** คะแนนความเรื่องมาก = 78% ***
อันดับ 6.....จัสติน ทิมเบอร์เลค [Justin Timberlake]
นักร้องเสียงเล็กที่แตกตัวมาจากวงบอยแบนด์เอ็กซ์ซิ้งค์ ความต้องการของเขาน่ากลัว จนทำให้แฟนเก่าอย่างบริทนี่ย์ต้องอายเลยทีเดียว
ตำนานความเรื่องมาก
เมื่อ คราวที่เขาไปแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศอังกฤษ บรรดาแฟน ๆ ต่างก็ต้องตกใจเมื่อเขาต้องยกขบวนคนติดตามจำนวนมากถึง 90 คนไปด้วยทุกที่ แล้วเวลาเข้าพักในโรงแรมต่างประเทศ จัสตินมักเรียกร้องให้โรงแรมติดกระจกไว้ที่ใต้เพดานในห้องนอนของเขา นอกจากนี้พนักงานโรงแรมยังไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับได้โดยตรงอีกด้วย เมื่อจัสตินต้องทำธุระในห้องน้ำนอกสถานที่ เขามีบอดี้การ์ดสองคนยืนอยู่ข้างหน้าห้องน้ำตลอดเวลา
*** คะแนนความเรื่องมาก = 80% ***
อันดับ 5.....เอลตัน จอห์น [Elton John]
สำหรับ นักร้องดังอย่างเอลตัน จอห์น ด้วยชื่อหน้าที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นถึง "เซอร์" บวกกับอายุที่มากพอที่คนรอบข้างจะยำเกรงแล้ว เขายังสามารถทำให้คนอื่นเกรงใจได้อย่างไม่ต้องเอ่ยปากเลยทีเดียว
ตำนานความเรื่องมาก
เอ ลตันเคยให้คนสนิทของเขาโทร.หาผู้จัดการในโรงแรมให้หรี่เครื่องปรับอากาศที่ อยู่ด้านบนหลังคาของโรงแรม เนื่องจากมันส่งเสียงดังมากและทำให้เขาไม่สามารถนอนหลับได้ เอลตัน จอห์นเคยแต่งตัวอย่างหรูหราและมีวิกผมอันใหญ่มาก จนเขาไม่สามารถมางานในรถลีมูซีนส่วนตัวได้ เอลตันจึงต้องนั่งรถบรรทุกคันใหญ่ที่มีความสูงพอสำหรับทรงผมของเขา ครั้งหนึ่งก่อนให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เอลตันเรียกร้องให้มีการเตรียมของในห้องรอส่วนตัวของเขา โดยให้เด็กในกองถ่ายไปซื้อผ้าเช็ดมือสีดำที่ทำจากผ้าฝ้ายของอียิปต์ 14 ผืน และให้ซักครั้งหนึ่งก่อนจัดเตรียมให้เขาในห้อง ระหว่างช่วงพักผ่อนในต่างประเทศ ถึงแม้ว่าเอลตันจะมีบอดี้การ์ดมากพอที่จะคอยกันบรรดาแฟนเพลงให้อยู่ห่างจาก เขาแล้วก็ตาม แต่ก็มีแฟนเพลงคนหนึ่งเดินเข้ามาในระยะใกล้และตะโกน "สวัสดี" เขาได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เอลตันเลิกล้มแผนการพักผ่อนครั้งนั้นและกลับทันที
*** คะแนนความเรื่องมาก = 85% ***
อันดับ 4.....เจนนิเฟอร์ โลเปซ [Jennifer Lopez]
กับ ความสำเร็จทางด้านดนตรีและภาพยนตร์ (บางเรื่อง) เจนนิเฟอร์กลายเป็นดาวดวงเด่ที่ผู้คนต่างจับตามองตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะทำตัวเป็นเหมือนเจ้าหญิงตลอดเวลา
ตำนานความเรื่องมาก
กาแฟ ของเจ.โลจะต้องชงโดยให้ช้อนกาแฟหมุนทวนเข็มนาฬิกาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ดื่มมันเลย บรรดาพนักงานและคนที่ทำงานให้เธอทุกคนจะถูกห้ามไม่ให้จ้องมองเธอที่ตาโดยตรง (ยกเว้นช่างแต่งหน้าของเธอเท่านั้น) ก่อนหน้าที่เธอจะเช็คอินเข้าโรงแรมได้ เตียงที่เธอนอนจะต้องถูกเปลี่ยน นั่นรวมถึงฟูกและหมอน ส่วนผ้าปูเตียงก็ต้องเป็นผ้าฝ้ายอียิปต์ที่มีเส้นด้ายอย่างน้อย 250 เส้น เจ.โลเคยเรียกร้องการคุ้มกันมากกว่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่มาร่วมในงานเสียอีก ระหว่างการแข่งเบสบอลที่เธอไปร่วมเชียร์ เจ.โลได้ให้ทางสนามกันห้องน้ำหนึ่งห้องไว้สำหรับเธอใช้เท่านั้น และมันก็สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้ชมคนอื่นเป็นจำนวนมาก
*** คะแนนความเรื่องมาก = 91% ***
อันดับ 3.....มารายห์ แครี่ย์ [Mariah Carey] (ไม่สงสัย ว่าทำไมติด)
เธอ เป็นนักร้องที่โด่งดังไปทั่วโลกและความดังนี้ไม่ได้มาจากพลังเสียงของเธอ เท่านั้นหรอกนะ เพราะสิทธิพิเศษที่เธอเรียกร้องนั้นก็ไม่เบาเลยทีเดียว
ตำนานความเรื่องมาก
หนึ่ง ในผู้ช่วยของมารายห์จะมีหน้าที่เดียวเท่านั้น เขาจะต้องคอยยื่นผ้าขนหนูให้เธอทุกครั้งที่เธอต้องการ สิ่งที่มารายห์ต้องการให้เตรียมไว้ในห้องแต่งตัวระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต ได้แก่ แชมเปญย่อห้อโปรด ชุดชงชาสำหรับ 8 ที่และเก้าอี้ผู้กำกับที่มีชื่อเธอ (ถึงแม้ว่าทั้งห้องจะเป็นของเธอก็ตาม) มารายห์เคยจ้างสไตลิสต์ส่วนตัวมาเพื่อคอยจัดขาของเธอให้ดูสวยงามเมื่อต้อง ถ่ายรูป ระหว่างการเดินทางไปออกรายการโทรทัศน์ มารายห์เคยให้รถลีมูซีนคันยาวของเธอจอดข้างทางด่วน ทำให้เกิดรถติดยาวเป็นกิโล เพียงเพราะเธอต้องการแต่งหน้าให้สวยก่อนถึงสถานีโทรทัศน์..แค่นั้นล่ะ มารายห์เคยบอกยกเลิกการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์อย่างกะทันหันเมื่อรู้ ว่า จะต้องมีการเดินลงบันได เพราะเธอว่า "เห็นแล้ว...ไม่สวย"
*** คะแนนความเรื่องมาก = 94% ***
อันดับ 2.....ชารอน สโตน [Sharon Stone]
ถึงแม้ว่าจะห่างหายจากจอเงินไปนาน แต่ดาราดังคนนี้ยังคงคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุดเสมอ มีพรมแดงที่ไหนย่อมต้องมีชารอนที่นั่นแน่นอน
ตำนานความเรื่องมาก
หลัง จากที่ประสบความสำเร็จจากเรื่อง Basic Instinct ผู้สร้างวางแผนที่จะสร้างภาค 2 แต่เมื่อเห็นข้อเรียกร้องของชารอน (ที่มีความยาวห้าหน้า) โปรเจ็คท์นี้กลับต้องล่มไป เธอแค่ต้องการบอดี้การ์ดตลอด 24 ชั่วโมงระหว่างการถ่ายทำ ผู้ช่วยสองคน เซฟทำอาหารส่วนตัว คนเลี้ยงเด็กสามคน รถยนต์คาดิแลคเปิดประทุน ห้องพักระดับดีที่สุด การเดินทางชั้นหนึ่งและถ้าจะต้องบิน เธอจะต้องบินในเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น ส่วนเครื่องประดับที่เธอใส่ในภาพยนตร์ เธอจะต้องได้สิทธิ์ครอบครองมันภายหลังด้วย ระหว่างการถ่ายทำเรื่อง Catwoman และชารอนต้องการเป็นคนสุดท้ายที่จะเดินบนพรมแดง (ตามธรรมเนียมฮอลลีวู้ดแล้ว ตำแหน่งนี้จะตกเป็นของนักแสดงนำของหนังเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ฮัลลี่ เบอร์รี่นั่นล่ะ) หลังจากการโต้เถียงไม่นาน ฮัลลี่ เบอร์รี่ก็ยอมสละตำแหน่งเดินรั้งท้ายนี้ให้เธอไป คนสนิทเล่าว่า "ฮัลลี่ไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่อง ใหญ่โต เธอจึงเป็นฝ่ายยอม" เมื่อชารอนได้รับเชิญไปสัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ในอเมริกา เธอเปลี่ยนแปลงการจัดไฟและมุมกล้องบ่อยครั้งมาก จนทำให้การถ่ายทำล่าช้าไปถึง 2 ชั่วโมง
*** คะแนนความเรื่องมาก = 97% ***
อันดับ 1.....มาดอนน่า [Madonna]
ใครบ้าง ล่ะที่จะไม่รู้จักเธอ หลังจากที่เธอร่วมเข้าลัทธิคับบาล่าห์แล้ว มาดอนนน่าเคยให้สัมภาษณ์ว่า "เมื่อย้อนดูชีวิตของฉันแล้ว ฉันรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอย่างเห็นแก่ตัวและคิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น" (ไม่ใช่เธอเท่านั้นหรอกที่คิดอย่างนี้)
ตำนานความเรื่องมาก
ใน ปี 1989 โรงแรมโลเวลล์ ในกรุงนิวยอร์กได้ติดตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายใหม่หมดตามความต้องการของมาดอน น่า แต่นั้นก็เพราะเธอคือแขกสำคัญ (และต้องพักที่นั่นทั้งปีเท่านั้นเอง) เมื่อมาดอนน่าได้รับเชิญให้ออกรายการ Top of The Pops ในปี 2001 เธอเรียกร้องห้องแต่งตัวสามห้อง จักรเย็บผ้า เครื่องปรับความชื้นและจักรยานออกกำลังกายของเธอ ระหว่างพักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ทหรูในอิตาลี เธอต้องการให้ทางโรงแรมปิดไฟทุกดวงในสนาม เพื่อที่เธอจะได้เห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจน มาดอนน่าเคยได้ร่วมแสดงละครเวทีในกรุงลอนดอน เธอให้โรงละครยกระดับเวทีให้สูงขึ้นอีก 1 ฟุต เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชมสามารถวิ่งขึ้นมาหาเธออย่างชิดใกล้ได้ มาดอนน่าเชื่อในลัทธิคับบาล่าห์และจะต้องดื่มน้ำคับบาล่าห์ (ที่เชื่อว่าได้รับพรแล้ว) เท่านั้น ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก เธอจะสั่งน้ำจำนวน 25 ลังไปด้วยตามสถานที่ต่างๆ ที่เธอแสดง ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต มาดอนน่ายังต้องการให้มีการสร้างห้องสำหรับการนั่งสมาธิไว้ที่ด้านหลังเวที โดยห้องนี้จะต้องสร้างจากวัสดุที่กันเสียงได้เป็นอย่างดีด้วย
*** คะแนนความเรื่องมาก = 100% ***
ที่มา.... http://www.t-pageant.com/webboard/viewtopic.php?f=8&t=132051&start=0&st=0&sk=t&sd=a
Friday, December 4, 2009
Wednesday, November 25, 2009
10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ
10. เหล้าดองงู - เวียดนาม
เหล้าดองงู มีต้นกำเนิดที่ประเทศเวียดนาม ต่อมาได้แพร่ขยายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนใต้ของจีน
ถึง แม้ว่างูที่เห็นบรรจุอยู่ในขวดเหล้าจะเป็นงูพิษ แต่การที่งูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ จะทำให้พิษค่อยๆ เจือจางและถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย
กล่าวกันว่า เหล้าดองงูมีสรรพคุณทางยา แต่นักท่องเที่ยวหลายรายต่างเลือกที่จะซื้อไปตั้งโชว์ที่บ้าน มากกว่าซื้อไปโด้ป!
9. หัวใจ (สดๆ) นกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์
ต้องบอก ว่า...เมนูนี้ค่อนข้างโหดร้ายและเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ก็ใครจะไปนึกว่าคนไอซ์แลนด์เขาจะใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกพัฟฟินมาหักคอ ถลกหนัง แล้วควักหัวใจออกมาทานกันสดๆ ขณะที่เนื้อมักถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ
แม้ว่าไอ ซ์แลนด์ จะเป็นหนึ่งในถิ่นอาศัยของฝูงนกพัฟฟินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ผลจากการที่ถูกมนุษย์บุกรุกถิ่นฐาน และไล่ล่าเอาทั้งไข่และเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับนกพัฟฟิน ด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกโชคร้าย ก็ยิ่งทำให้นกดังกล่าวมีปริมาณลดลงอย่างฮวบฮาบ
8. กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย
เมื่อ ไม่นานมานี้ "บีเอสเอ็นนิวส์" เคยนำเสนอเรื่องราวของกาแฟ "Kopi Luwak" ที่ได้ชื่อว่าหายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง
เมล็ด กาแฟชนิดนี้ ได้มาจากระบบขับถ่าย (อึ) ของตัวชะมดชนิดหนึ่งซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอมและรสชาติดีเป็นพิเศษ
กาแฟ "Kopi Luwak" พบได้บนเกาะสุมาตรา ชวา และสุลาเวสี ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความที่หายากเมล็ดกาแฟชนิดนี้จึงมีราคาขายสูงถึง 100-600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,400 - 20,400 บาท) ต่อ 1 ปอนด์ (0.45 กก.) เลยทีเดียว
7. ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้
สำหรับท่านที่เป็นแฟนซีรีย์เกาหลี คงเคยเห็นอาหารจานนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว...
เมนู นี้มีชื่อว่า "Sannakji" (แถวบ้านเราเรียกว่า "ปลาหมึกสด") วิธีทำก็ง่ายๆ แค่นำปลาหมึกเป็นๆ มาหั่น ราดด้วยน้ำมันงาแล้วเสิร์ฟทันที
ขณะ อยู่ในจานหนวดปลาหมึกจะยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก และดูดติดกับจานหรืออะไรก็ตามที่เข้าไปสัมผัส ดังนั้น เวลารับประทานจึงต้องใช้ความพยายามในการคีบมากเป็นพิเศษ และต้องต่อสู้กับหนวดปลาหมึกเล็กน้อย
แต่ใช่ว่าคีบได้แล้วเรื่อง จะจบ เพราะเวลาที่อยู่ในปากปลาหมึกอาจยังคงดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและเสียฟอร์มเพราะสำลัก หรือ (หนวด) ปลาหมึกติดคอ
6. เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน
หนึ่งในอาหารแปลก ที่สุดในโลกจานนี้ สามารถซื้อหามารับประทานได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในสวีเดน และเจ้าอาหารแปลกที่ว่านี้ก็คือ “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” นั่นเอง
สำหรับท่านที่ไม่ชอบปลาร้า เวลาได้กลิ่นอาจทำหน้าเหยเกแล้วบ่นว่า "เหม็น" แต่เชื่อหรือไม่ว่าปลาร้า 10 ไหก็ยังชิดซ้ายปลาเน่า “เซอร์สตอร์มมิง” จากสวีเดน เพราะแค่เพียงกระป๋องเดียว ก็อาจทำให้คลื่นเ...ยนอาเจียนไปทั้งหมู่บ้าน
ส่วนจะเหม็นแค่ไหนนั้น...ลองนึกภาพดูแล้วกันว่าเวลาจะรับประทาน ต้องนั่งทาน "กลางแจ้ง" ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น
“เซอร์ สตอร์มมิง” ผลิตจากปลาเฮอร์ริงในทะเลบอลติกที่ถูกจับขึ้นมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่ง (เพราะภายในมีแก๊สที่เกิดจากปลาเน่า) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด
และเนื่องจาก ภายในกระป๋องมีแรงดันของแก๊ส จึงมักเกิดเหตุการณ์ “เซอร์สตอร์มมิง” ระเบิด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะขนส่ง หรือระหว่างที่เก็บเอาไว้ในโกดังบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดาสายการบินจึงระบุว่า “เซอร์สตอร์มมิง” เป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด
คนสวีเดนมักรับประทานปลา เน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่ (บางๆ) และมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น
5. คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
คา สุ มาร์ซู (Casu Marzu) คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" แม้ปัจจุบัน ทางอียูจะกำหนดให้ชีส "คาสุ มาร์ซู" เป็นอาหารที่ผิดกฏหมายและผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่แฟนพันธุ์แท้ของชีสชนิดนี้ ก็ยังคงซื้อหามารับประทานได้จากตลาดมืดซึ่งเป็นที่รู้กัน
หาก แปลตรงตัว "คาสุ มาร์ซู" จะหมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง เนื่องจากภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว
กล่าวกันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที
และถ้ายังยี้ไม่พอ ขอบอกว่า...ถ้าใครเอามือไปโดนหรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (หนอนพวกนี้สามารถดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม.) ซึ่งถ้าหากไม่ระวังล่ะก็อาจกระเด็นเข้าตาได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนนำชีสไปล้างก่อนรับประทาน ขณะที่บางคนใช้ถุงพลาสติกปิดคลุมไว้ก่อนเพื่อให้หนอนขาดออกซิเจนและอ่อนแรง ก่อนที่จะตายในที่สุด แต่วิธีหลังถือว่าอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษจนต้องหามส่งโรง พยาบาลได้
4. ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์
เมนูเด็ดของแดน ตากาล็อกประจำวันนี้ คือ ไข่บาลุต ซึ่งก็คือไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด (หรือไก่) อยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามท้องถนน
ส่วนวิธี รับประทานนั้นก็ไม่ยาก แค่ปอกเปลือกด้านบนออก เหยาะเกลือ น้ำมะนาว พริกไทย และผักชีลงไป (บางคนอาจจะใส่พริกและน้ำส้มสายชู) จากนั้นก็ซดน้ำ (ในไข่) แล้วแกะเปลือกไข่ส่วนที่เหลือออกเพื่อทานไข่แดงและเคี้ยวตัวอ่อนที่กำลัง กรุ๊บๆ
3. ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น
"ปลาปักเป้า" หรือ "ฟุกุ" เป็นได้ทั้งอาหารอันโอชะและยาพิษร้ายในขณะเดียวกัน...
เป็น ที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" ทุกชนิดเป็นปลาที่มีสารพิษ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ ดังนั้น การรับประทานพิษปลาปักเป้าเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจถึงแก่ความตายได้
ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้
2. ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา
อย่าว่าแต่ ฝรั่งเลย แม้แต่คนไทยอย่างเราๆ ถ้าได้เห็นตัวประหลาด 8 ขา สีดำ ขนปุย ถูกทอดขายแบบมาทั้งตัว อวัยวะทุกส่วน (แม้แต่เขี้ยว ขา และขน) อยู่ครบ ก็คงรู้สึกแปลกๆ และอดขนลุกไม่ได้เหมือนกัน
"ตัวบึ้งหรือแมงมุม ยักษ์" ที่มีทั้งแบบอบ ย่าง และทอดกระเทียมนี้ ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคนกัมพูชา เขาขายกันเป็นล่ำเป็นสันที่ข้างถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม จนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะชมให้เห็นกับตา และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนจะซื้อหาและทดลองชิมหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
1. ซุปรังนก - ประเทศจีน
สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การรับประทานรังนกถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา (ถ้ามีตังค์) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า "รังนกแท้" ถือเป็นอาหารที่หายากและมีราคาแพง ถึงขนาดได้รับฉายาว่าเป็น "คาเวียร์" ของโลกตะวันออกเลยทีเดียว
สาเหตุ ที่ฝรั่งหรือคนต่างชาติรู้สึกว่ารังนกเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ เพราะรังนกแท้ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็ง เป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่ารังนกเป็นอาหารอันโอชะของหลายประเทศในแถบเอเชีย และมีราคาแพงมากๆ เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าพวกเรากินน้ำลายนกเข้าไปได้ยังไง
credit - http://board.postjung.com/444238.html
เหล้าดองงู มีต้นกำเนิดที่ประเทศเวียดนาม ต่อมาได้แพร่ขยายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนใต้ของจีน
ถึง แม้ว่างูที่เห็นบรรจุอยู่ในขวดเหล้าจะเป็นงูพิษ แต่การที่งูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ จะทำให้พิษค่อยๆ เจือจางและถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย
กล่าวกันว่า เหล้าดองงูมีสรรพคุณทางยา แต่นักท่องเที่ยวหลายรายต่างเลือกที่จะซื้อไปตั้งโชว์ที่บ้าน มากกว่าซื้อไปโด้ป!
9. หัวใจ (สดๆ) นกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์
ต้องบอก ว่า...เมนูนี้ค่อนข้างโหดร้ายและเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ก็ใครจะไปนึกว่าคนไอซ์แลนด์เขาจะใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกพัฟฟินมาหักคอ ถลกหนัง แล้วควักหัวใจออกมาทานกันสดๆ ขณะที่เนื้อมักถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ
แม้ว่าไอ ซ์แลนด์ จะเป็นหนึ่งในถิ่นอาศัยของฝูงนกพัฟฟินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ผลจากการที่ถูกมนุษย์บุกรุกถิ่นฐาน และไล่ล่าเอาทั้งไข่และเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับนกพัฟฟิน ด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกโชคร้าย ก็ยิ่งทำให้นกดังกล่าวมีปริมาณลดลงอย่างฮวบฮาบ
8. กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย
เมื่อ ไม่นานมานี้ "บีเอสเอ็นนิวส์" เคยนำเสนอเรื่องราวของกาแฟ "Kopi Luwak" ที่ได้ชื่อว่าหายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง
เมล็ด กาแฟชนิดนี้ ได้มาจากระบบขับถ่าย (อึ) ของตัวชะมดชนิดหนึ่งซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอมและรสชาติดีเป็นพิเศษ
กาแฟ "Kopi Luwak" พบได้บนเกาะสุมาตรา ชวา และสุลาเวสี ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความที่หายากเมล็ดกาแฟชนิดนี้จึงมีราคาขายสูงถึง 100-600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,400 - 20,400 บาท) ต่อ 1 ปอนด์ (0.45 กก.) เลยทีเดียว
7. ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้
สำหรับท่านที่เป็นแฟนซีรีย์เกาหลี คงเคยเห็นอาหารจานนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว...
เมนู นี้มีชื่อว่า "Sannakji" (แถวบ้านเราเรียกว่า "ปลาหมึกสด") วิธีทำก็ง่ายๆ แค่นำปลาหมึกเป็นๆ มาหั่น ราดด้วยน้ำมันงาแล้วเสิร์ฟทันที
ขณะ อยู่ในจานหนวดปลาหมึกจะยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก และดูดติดกับจานหรืออะไรก็ตามที่เข้าไปสัมผัส ดังนั้น เวลารับประทานจึงต้องใช้ความพยายามในการคีบมากเป็นพิเศษ และต้องต่อสู้กับหนวดปลาหมึกเล็กน้อย
แต่ใช่ว่าคีบได้แล้วเรื่อง จะจบ เพราะเวลาที่อยู่ในปากปลาหมึกอาจยังคงดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและเสียฟอร์มเพราะสำลัก หรือ (หนวด) ปลาหมึกติดคอ
6. เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน
หนึ่งในอาหารแปลก ที่สุดในโลกจานนี้ สามารถซื้อหามารับประทานได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในสวีเดน และเจ้าอาหารแปลกที่ว่านี้ก็คือ “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” นั่นเอง
สำหรับท่านที่ไม่ชอบปลาร้า เวลาได้กลิ่นอาจทำหน้าเหยเกแล้วบ่นว่า "เหม็น" แต่เชื่อหรือไม่ว่าปลาร้า 10 ไหก็ยังชิดซ้ายปลาเน่า “เซอร์สตอร์มมิง” จากสวีเดน เพราะแค่เพียงกระป๋องเดียว ก็อาจทำให้คลื่นเ...ยนอาเจียนไปทั้งหมู่บ้าน
ส่วนจะเหม็นแค่ไหนนั้น...ลองนึกภาพดูแล้วกันว่าเวลาจะรับประทาน ต้องนั่งทาน "กลางแจ้ง" ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น
“เซอร์ สตอร์มมิง” ผลิตจากปลาเฮอร์ริงในทะเลบอลติกที่ถูกจับขึ้นมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่ง (เพราะภายในมีแก๊สที่เกิดจากปลาเน่า) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด
และเนื่องจาก ภายในกระป๋องมีแรงดันของแก๊ส จึงมักเกิดเหตุการณ์ “เซอร์สตอร์มมิง” ระเบิด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะขนส่ง หรือระหว่างที่เก็บเอาไว้ในโกดังบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดาสายการบินจึงระบุว่า “เซอร์สตอร์มมิง” เป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด
คนสวีเดนมักรับประทานปลา เน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่ (บางๆ) และมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น
5. คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
คา สุ มาร์ซู (Casu Marzu) คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" แม้ปัจจุบัน ทางอียูจะกำหนดให้ชีส "คาสุ มาร์ซู" เป็นอาหารที่ผิดกฏหมายและผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่แฟนพันธุ์แท้ของชีสชนิดนี้ ก็ยังคงซื้อหามารับประทานได้จากตลาดมืดซึ่งเป็นที่รู้กัน
หาก แปลตรงตัว "คาสุ มาร์ซู" จะหมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง เนื่องจากภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว
กล่าวกันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที
และถ้ายังยี้ไม่พอ ขอบอกว่า...ถ้าใครเอามือไปโดนหรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (หนอนพวกนี้สามารถดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม.) ซึ่งถ้าหากไม่ระวังล่ะก็อาจกระเด็นเข้าตาได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนนำชีสไปล้างก่อนรับประทาน ขณะที่บางคนใช้ถุงพลาสติกปิดคลุมไว้ก่อนเพื่อให้หนอนขาดออกซิเจนและอ่อนแรง ก่อนที่จะตายในที่สุด แต่วิธีหลังถือว่าอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษจนต้องหามส่งโรง พยาบาลได้
4. ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์
เมนูเด็ดของแดน ตากาล็อกประจำวันนี้ คือ ไข่บาลุต ซึ่งก็คือไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด (หรือไก่) อยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามท้องถนน
ส่วนวิธี รับประทานนั้นก็ไม่ยาก แค่ปอกเปลือกด้านบนออก เหยาะเกลือ น้ำมะนาว พริกไทย และผักชีลงไป (บางคนอาจจะใส่พริกและน้ำส้มสายชู) จากนั้นก็ซดน้ำ (ในไข่) แล้วแกะเปลือกไข่ส่วนที่เหลือออกเพื่อทานไข่แดงและเคี้ยวตัวอ่อนที่กำลัง กรุ๊บๆ
3. ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น
"ปลาปักเป้า" หรือ "ฟุกุ" เป็นได้ทั้งอาหารอันโอชะและยาพิษร้ายในขณะเดียวกัน...
เป็น ที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" ทุกชนิดเป็นปลาที่มีสารพิษ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ ดังนั้น การรับประทานพิษปลาปักเป้าเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจถึงแก่ความตายได้
ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้
2. ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา
อย่าว่าแต่ ฝรั่งเลย แม้แต่คนไทยอย่างเราๆ ถ้าได้เห็นตัวประหลาด 8 ขา สีดำ ขนปุย ถูกทอดขายแบบมาทั้งตัว อวัยวะทุกส่วน (แม้แต่เขี้ยว ขา และขน) อยู่ครบ ก็คงรู้สึกแปลกๆ และอดขนลุกไม่ได้เหมือนกัน
"ตัวบึ้งหรือแมงมุม ยักษ์" ที่มีทั้งแบบอบ ย่าง และทอดกระเทียมนี้ ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคนกัมพูชา เขาขายกันเป็นล่ำเป็นสันที่ข้างถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม จนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะชมให้เห็นกับตา และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนจะซื้อหาและทดลองชิมหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
1. ซุปรังนก - ประเทศจีน
สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การรับประทานรังนกถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา (ถ้ามีตังค์) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า "รังนกแท้" ถือเป็นอาหารที่หายากและมีราคาแพง ถึงขนาดได้รับฉายาว่าเป็น "คาเวียร์" ของโลกตะวันออกเลยทีเดียว
สาเหตุ ที่ฝรั่งหรือคนต่างชาติรู้สึกว่ารังนกเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ เพราะรังนกแท้ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็ง เป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่ารังนกเป็นอาหารอันโอชะของหลายประเทศในแถบเอเชีย และมีราคาแพงมากๆ เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าพวกเรากินน้ำลายนกเข้าไปได้ยังไง
credit - http://board.postjung.com/444238.html
ป้ายกำกับ:
10 อันดับ,
สุดยอดของอาหารท้องถิ่นแต่ละประเทศ
Wednesday, November 18, 2009
10 อันดับ อาชีพที่เยี่ยมที่สุด ที่หลายคนอยากทำ
1. Paradise island caretaker ผู้ดูแลเกาะแห่งสรวงสรรค
อัน นี้คงเคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว เป็นอาชีพที่หลายๆคนอยากทำเป็นที่สุด ชายที่ว่า ชื่อ ว่า Ben Houthall อายุ 34 ปี เป็นชาวเมือง Pertersfield ชนะใสผ่านผู้สมัครที่ส่งมาทั้งหมดถึง 35,000 คนจากทั่วโลก ที่ต่างก็หวังจะได้ว่ายน้ำสบายใจสำรวจเกาะ Hamilton ที่อยู่ใน Barrier Reef และก็เขียนblog โปรโมทพื้นที่เกาะที่ว่านี้ด้วย เค้าจะได้ค่าเนื่อย 111,000 dollars สำหรับสัญญา 6 เดือนโดยมีหน้าที่ ดูและเกาะดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตร้อนของประเทศ Australia เค้าจะใช้ชีวิตใน villar แบบไม่ต้องจ่ายค่าเช่า และก็มีสระว่ายน้ำในบ้านด้วย ก่อนที่ เค้าจะได้งานนี้ เค้าจะต้องใช้เวลา 4 วันสำรวจเกาะเพื่อที่คณะกรรมการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ซึ่งผู้สมัครต้องดำน้ำไปรอบๆชายหาด มี barbecur อย่างสบายอารมณ์ที่ spa ด้วย เค้าได้แสดงถึงความสามารถทำ blog ทดสอบการว่ายน้ำ และนั่งสัมภาษณ์ตัวต่อตัว
2. Luxury bed tester ผู้ทดสอบที่นอนหรูหรา
ตอนเช้าๆ บ่อยครั้ง เราเคยพูดว่า ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย อยากนอนไปตลอด แล้วถ้าคุณได้นอนด้วย แล้วได้เงินด้วยหล่ะอยากทำงานนี้ไหม นักเรียนจากมหาวิทยาลัย Birmingham ได้งานในฝันนั่นก็คือ นอนเพื่อทดสอบเตียงอันหรูหรา เป็นเวลา 1 เดือน และก็รับทรัพย์อีกต่างหาก สาวน้อยมีชื่อว่า Rosin Madigan อายุ 22 ปี จะรับทรัพย์ 1000 ปอนด์ เพื่อจะได้นอนเตียงที่ถูกออกแบบมากพิเศษ ของบริษัท Simon Horn Ltd. บริษัทนี้ขายเตียงหรูหรา ส่งให้โรงแรม Savoy Hotel Mr. Cragi Roylance กล่าวว่า Roisin ต้องวิจารณ์ข้อเสียของเตียง และก็มองหาสิ่งอะไรก็ตามที่จะทำให้ฝันดี เวลาปฏิบัติงานคือ 10 am – 6 pm ใน showroom ของบริษัทในเมือง Edgbaston และบริษัทจะทำนำประสบการณ์ของเธอไปทำ blog ด้วย
3. Resort waterslide tester นักทดสอบ สไลด์น้ำใน resort
แน่ นอนอาชีพนี้คนทำงานอย่างเราๆต้องอิจฉาตาร้อนผ่าวๆแน่นอน เพราะ Tommy Lynch ปีนี้เค้าต้องเดินทางมากกว่า 27,000 ไมล์เพื่อไปทำงานทดสอบสไลด์ลื่นในศูนย์น้ำตาม resort ต่างๆ Lynch ตอนนี้อายุ 29 ปี ทำงานที่บริษัท First Choice เค้าจะต้องทดสอบความสูง ความเร็ว คุณภาพของน้ำ และติดตั้งรางน้ำรวมทั้งความปลอดภัยด้านอื่นๆด้วย ในปี 2008 Mr.Lynch ได้เดินทางทดสอบ สไลด์ลื่นทั้งใน Lanzarote ,Majorca, Egypt, Turkey, Costa Del Sol, Cyprus, Algarve, Dominican Republic และก็ Mexico ปีนี้ 2009 เค้าจะไปตรวจสอบคุณภาพที่ Greece, Turkey, Florida, Jamica และ Ibiza
Mr.Lynch เกิดที่เมือง Liverpool
4. Professional prostitute tester
คุณอ่าน ไม่ผิดหรอกค่ะ มันมีอาชีพนี้อยู่จริงๆ แต่อยู่ที่ประเทศชิลี อาชีพทดสอบคุณตัว .. ชายผู้มีอาชีพที่ชายหลายๆคนอยากทำเค้าชื่อ Jaime Rascone ชายผู้นี้เค้าก็เหมือนๆกับเราๆที่อยากจะได้งานแปลก แต่ชาวชิลีผู้นี้ชนะพวกเราโดยการได้งานที่สุดจะแฟนตาซีและก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่ามันจะเป็นจริง เค้าเป็นผู้ควบคุมคุณภาพในซ่อง
Rascone มีอาชีพเป็นนายแบบ และ DJ ทำงานให้กับ Fiorella ในเมืองซานติอาโอ ประเทศชิลี เค้าได้รับการเสนองานชั่วคราวจากมาดาม Firella ให้เป็นผู้สัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายในการว่าจ้าง นั่นคือ สาวๆที่จะเข้ามาทำงานเป็น escort(เพื่อนแก้เหงา)ระดับ VIP สำหรับซ่องแห่งนี้ต้องผ่านการสัมภาษณ์ การทดสอบทางจิตวิทยา และจะคัดออกจนเหลือ 6 คนสุดท้าย ซึ่งก็ต้องผ่านนาย Jaime ทดสอบกลีลาของเจ้าหล่อนเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงก่อน โดยใช้เวลา 1 วันเต็มๆโดยลำพัง จากนั้นเค้าก็เขียนรายงานบอกรายละเอียดว่าสาวเจ้ามีลีลาการย้ายสะโพกเป็น อย่างไร ร้องครวญครางพอไม๊ ส่งไปยังมาดาม จากความเครียดเมื่อต้องทำการทดสอบ ทำให้เค้ารับทำงานนี้แค่ เดือนละครั้ง การทดสอบปีนึงๆกับสาวๆก็แค่ 70 คนเอง หนุ่มๆหลายคนคงอิจฉานายคนนี้
5 Wine tester and blogger นักทดสอบไวน์
ถ้าคุณชอบดื่นไวน์ คุณต้องชอบอาชีพนี้ คุณลองจินตนาการตัวเองสิ ว่าอยู่ในเมือง Sonoma เป็นที่ซึ่งคุณจะกลับบ้านไปพร้อมๆเหล้าไวน์ 450 ขวด และก็เดินไปตามชายหาดที่แสนงามทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ค่าเช่าบ้านก็ฟรี ได้เรียนรู้วิธีทำไวน์ที่สลับซันซ้อนหลายขั้นตอนกว่าจะได้ไวน์ชั้นเยี่ยม ออกมา รับและก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆใน twitters ของคุณ จากนั้นก็ได้รับเงินเดือนละ 10,000 ดอลล่าร์ แต่ชายที่โชคดีคนนั้ชื่อ Hardy Wallace ชาวเมือง Atlanta เป็นคนแรกที่ได้ตอบรับเข้าทำงานนี้จากบริษัท Murphy-Goode Winery เค้าเซ็นสัญญาทำงาน 6 เดือน วิธีการรับสมัครก็ง่ายมาๆ คือ ส่ง Video ของคุณเอง ลงใน Youtube บอกเล่าว่าทำไมคุณถึงอยากได้งานดีแบบนี้ จากนั้นก็รอ
6. Candy taster นักทดสอบลูกอม
ยังจำได้ไหมว่าลูกอมมันอร่อยหอมหวานแค่ไหน อยากทำงานที่ได้ชิมของอร่อยทั้งวันไหมหล่ะคะ งานดีๆแบบนี้ตกเป็นของเด็กนักเรียนชื่อ Harry Willsher อายุ 12 ปี หัวหน้าทดสอบในโรงงานขนม งานของ Harryคือ เป็นผู้ทดสอบสูตรลับสุดยอด เค้าได้งานหลังจากที่เค้าเป็นผู้ชนะเลิศจาการข่งขันหาคนงานของบริษัท Swizzell’s Matlow ครั้งแรกที่ Harry สำรวจโรงงานวันแรกที่เข้าทำงานเค้ารู้สึกเหมือนกับอยู่ในหนังสือชื่อ Charlei and The Chocolate Factory เค้าทำให้คณะกรรมการประทับใจโดยการอธิบายรสชาดและกลิ่นของหวานที่เค้าชอบ นั่นคือ อมยิ้ม บริษัท Derby ยังผลิต ลูกอมรูปหัวใจ สายรุ้ง และยังได้ให้บัตรธุรกิจแต่หัวหน้าทดสอบรุ่นเยาว์คนนี้รวมทั้งทดสอบลูกอม และยังร่วมวิจารรณ์การพัฒนาโรงงานที่ New Mills ที่เมือง Derbyshire ด้วย
7.Condom tester คนทดสอบถุงยางอนามัย
ฝ่าย การตลาดของบริษัทดูเร็ก ประกาศรับสมัครคนทดสอบถุงยางอนามัย อันเป็นอาชีพที่หนุ่มๆหลายๆคนอยากได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานนี้ คุณสมบัติคือ อายุ 18 ปีขึ้นไป ตำแหน่งที่รับ 200 ตำแหน่งทีเดียว แต่โชคไม่ดีตำแหน่งนี้ไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ผู้ได้รับคัดเลือกบริษัทจะมอบผลิตภัณฑ์ดูเร็กมูลค่า 60 $ เป็นการตอบแทน และเมื่อใช้ถุงยางแล้วต้องแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรง มา ผู้โชคดี 1 ใน 200 ท่านจะได้รับเงิน 1,000$เป็นโบนัส งานนี้สามารถนำกลับไปทำที่บ้านได้ กลายเป็น work at home ซะงั้น ^_^
8. World of Warcraft Tester นักสอบเกมส์สงครามอวกาศ
คุณ เคยเล่นเกมส์สงครามอวกาศไม๊ ถ้าเคยเล่นแล้วเล่นได้เก่งด้วย ก็มาสมัครงานนี้เลย นักทสอสอบเกมส์ ตอนนี้เค้ากำลังรับสมัครอยู่ เค้ารับคนต่างชาติด้วยนะ ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เค้าไม่จำกัด ลองดูสิ แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องเล่นเกมส์นี้อย่างต่ำ 4 ชม.ต่อ 1 วัน คนที่เล่นเกมส์แล้วติดหน่ะ คิดว่า 4 ชม เป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลยใช่ไหมคะ
9.Director of Fun at a museum (age 6) ผู้อำนวยการแห่งความสนุกที่พิพิธภัณธ์สวนสนุก
เด็ก ชายอายุ 6 ปีได้กลายเป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณธ์รถไฟแห่งชาติของนครนิวเยอร์คไปแล้ว ตำแหน่งคือ ผู้อำนวยการความสนุก เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Sam Pointon เข้ามาแทนตำแหน่ง Andrew Scott ที่เกษียณไป เด็กชาย Sam เขียนใบสมัครด้วยลายมือของเค้าเองจ่าหัวกระดาษว่า ขอสมัครตำแหน่งผู้อำนวยการ เค้าได้เขียนรายชื่อบุคคลที่อ้างอิง รวมทั้งกล่าวว่าเค้าเป็นผู้เชียวชาญในเรื่องรถไฟฟ้าย่อส่วน (train set) เค้าบอกว่า เค้ามีรถไฟฟ้าย่อส่วนและก็ควบคุมมันได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ประทับใจกับจดหมายมาก และได้รับ sam เข้าทำงานในตำแหน่ง ผู้อำนวยการแห่งความสนุก
10. Bike rider-photographer for Google Maps นักปั่นจักรยานและถ่ายรูป สำหรับ Google Maps
บริษัท google ได้จ้างหนุ่มน้อย 2 คน เพื่อจะขับจักรยาน3 ล้อไปรอบๆประเทศฝรั่งเศส ถ่ายภาพสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันเป็นที่รถยนต์เข้าไปไม่ถึง นักขับรถ 3 ล้อทั้งสองคนจะนำกล้อง 9 ตัวติดตัวไปพร้อม กับ GPS คอมพิวเตอร์ และก็เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ด้วย เค้าต้องถ่ายภาพ 3 มิติ สำหรับ google’s Street View Maps นักขับสามล้อจะสวมเสื้อยืนที่มี logo Google บนหน้าอก และก็สวมหมวกสีขาว ตระเวนไปสถานที่สำคัญๆของฝรั่งเศส
ที่มา
- http://www.oddee.com/item_96855.aspx
- http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8539964/F8539964.html
อัน นี้คงเคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว เป็นอาชีพที่หลายๆคนอยากทำเป็นที่สุด ชายที่ว่า ชื่อ ว่า Ben Houthall อายุ 34 ปี เป็นชาวเมือง Pertersfield ชนะใสผ่านผู้สมัครที่ส่งมาทั้งหมดถึง 35,000 คนจากทั่วโลก ที่ต่างก็หวังจะได้ว่ายน้ำสบายใจสำรวจเกาะ Hamilton ที่อยู่ใน Barrier Reef และก็เขียนblog โปรโมทพื้นที่เกาะที่ว่านี้ด้วย เค้าจะได้ค่าเนื่อย 111,000 dollars สำหรับสัญญา 6 เดือนโดยมีหน้าที่ ดูและเกาะดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตร้อนของประเทศ Australia เค้าจะใช้ชีวิตใน villar แบบไม่ต้องจ่ายค่าเช่า และก็มีสระว่ายน้ำในบ้านด้วย ก่อนที่ เค้าจะได้งานนี้ เค้าจะต้องใช้เวลา 4 วันสำรวจเกาะเพื่อที่คณะกรรมการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ซึ่งผู้สมัครต้องดำน้ำไปรอบๆชายหาด มี barbecur อย่างสบายอารมณ์ที่ spa ด้วย เค้าได้แสดงถึงความสามารถทำ blog ทดสอบการว่ายน้ำ และนั่งสัมภาษณ์ตัวต่อตัว
2. Luxury bed tester ผู้ทดสอบที่นอนหรูหรา
ตอนเช้าๆ บ่อยครั้ง เราเคยพูดว่า ไม่อยากตื่นไปทำงานเลย อยากนอนไปตลอด แล้วถ้าคุณได้นอนด้วย แล้วได้เงินด้วยหล่ะอยากทำงานนี้ไหม นักเรียนจากมหาวิทยาลัย Birmingham ได้งานในฝันนั่นก็คือ นอนเพื่อทดสอบเตียงอันหรูหรา เป็นเวลา 1 เดือน และก็รับทรัพย์อีกต่างหาก สาวน้อยมีชื่อว่า Rosin Madigan อายุ 22 ปี จะรับทรัพย์ 1000 ปอนด์ เพื่อจะได้นอนเตียงที่ถูกออกแบบมากพิเศษ ของบริษัท Simon Horn Ltd. บริษัทนี้ขายเตียงหรูหรา ส่งให้โรงแรม Savoy Hotel Mr. Cragi Roylance กล่าวว่า Roisin ต้องวิจารณ์ข้อเสียของเตียง และก็มองหาสิ่งอะไรก็ตามที่จะทำให้ฝันดี เวลาปฏิบัติงานคือ 10 am – 6 pm ใน showroom ของบริษัทในเมือง Edgbaston และบริษัทจะทำนำประสบการณ์ของเธอไปทำ blog ด้วย
3. Resort waterslide tester นักทดสอบ สไลด์น้ำใน resort
แน่ นอนอาชีพนี้คนทำงานอย่างเราๆต้องอิจฉาตาร้อนผ่าวๆแน่นอน เพราะ Tommy Lynch ปีนี้เค้าต้องเดินทางมากกว่า 27,000 ไมล์เพื่อไปทำงานทดสอบสไลด์ลื่นในศูนย์น้ำตาม resort ต่างๆ Lynch ตอนนี้อายุ 29 ปี ทำงานที่บริษัท First Choice เค้าจะต้องทดสอบความสูง ความเร็ว คุณภาพของน้ำ และติดตั้งรางน้ำรวมทั้งความปลอดภัยด้านอื่นๆด้วย ในปี 2008 Mr.Lynch ได้เดินทางทดสอบ สไลด์ลื่นทั้งใน Lanzarote ,Majorca, Egypt, Turkey, Costa Del Sol, Cyprus, Algarve, Dominican Republic และก็ Mexico ปีนี้ 2009 เค้าจะไปตรวจสอบคุณภาพที่ Greece, Turkey, Florida, Jamica และ Ibiza
Mr.Lynch เกิดที่เมือง Liverpool
4. Professional prostitute tester
คุณอ่าน ไม่ผิดหรอกค่ะ มันมีอาชีพนี้อยู่จริงๆ แต่อยู่ที่ประเทศชิลี อาชีพทดสอบคุณตัว .. ชายผู้มีอาชีพที่ชายหลายๆคนอยากทำเค้าชื่อ Jaime Rascone ชายผู้นี้เค้าก็เหมือนๆกับเราๆที่อยากจะได้งานแปลก แต่ชาวชิลีผู้นี้ชนะพวกเราโดยการได้งานที่สุดจะแฟนตาซีและก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่ามันจะเป็นจริง เค้าเป็นผู้ควบคุมคุณภาพในซ่อง
Rascone มีอาชีพเป็นนายแบบ และ DJ ทำงานให้กับ Fiorella ในเมืองซานติอาโอ ประเทศชิลี เค้าได้รับการเสนองานชั่วคราวจากมาดาม Firella ให้เป็นผู้สัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายในการว่าจ้าง นั่นคือ สาวๆที่จะเข้ามาทำงานเป็น escort(เพื่อนแก้เหงา)ระดับ VIP สำหรับซ่องแห่งนี้ต้องผ่านการสัมภาษณ์ การทดสอบทางจิตวิทยา และจะคัดออกจนเหลือ 6 คนสุดท้าย ซึ่งก็ต้องผ่านนาย Jaime ทดสอบกลีลาของเจ้าหล่อนเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงก่อน โดยใช้เวลา 1 วันเต็มๆโดยลำพัง จากนั้นเค้าก็เขียนรายงานบอกรายละเอียดว่าสาวเจ้ามีลีลาการย้ายสะโพกเป็น อย่างไร ร้องครวญครางพอไม๊ ส่งไปยังมาดาม จากความเครียดเมื่อต้องทำการทดสอบ ทำให้เค้ารับทำงานนี้แค่ เดือนละครั้ง การทดสอบปีนึงๆกับสาวๆก็แค่ 70 คนเอง หนุ่มๆหลายคนคงอิจฉานายคนนี้
5 Wine tester and blogger นักทดสอบไวน์
ถ้าคุณชอบดื่นไวน์ คุณต้องชอบอาชีพนี้ คุณลองจินตนาการตัวเองสิ ว่าอยู่ในเมือง Sonoma เป็นที่ซึ่งคุณจะกลับบ้านไปพร้อมๆเหล้าไวน์ 450 ขวด และก็เดินไปตามชายหาดที่แสนงามทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ค่าเช่าบ้านก็ฟรี ได้เรียนรู้วิธีทำไวน์ที่สลับซันซ้อนหลายขั้นตอนกว่าจะได้ไวน์ชั้นเยี่ยม ออกมา รับและก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆใน twitters ของคุณ จากนั้นก็ได้รับเงินเดือนละ 10,000 ดอลล่าร์ แต่ชายที่โชคดีคนนั้ชื่อ Hardy Wallace ชาวเมือง Atlanta เป็นคนแรกที่ได้ตอบรับเข้าทำงานนี้จากบริษัท Murphy-Goode Winery เค้าเซ็นสัญญาทำงาน 6 เดือน วิธีการรับสมัครก็ง่ายมาๆ คือ ส่ง Video ของคุณเอง ลงใน Youtube บอกเล่าว่าทำไมคุณถึงอยากได้งานดีแบบนี้ จากนั้นก็รอ
6. Candy taster นักทดสอบลูกอม
ยังจำได้ไหมว่าลูกอมมันอร่อยหอมหวานแค่ไหน อยากทำงานที่ได้ชิมของอร่อยทั้งวันไหมหล่ะคะ งานดีๆแบบนี้ตกเป็นของเด็กนักเรียนชื่อ Harry Willsher อายุ 12 ปี หัวหน้าทดสอบในโรงงานขนม งานของ Harryคือ เป็นผู้ทดสอบสูตรลับสุดยอด เค้าได้งานหลังจากที่เค้าเป็นผู้ชนะเลิศจาการข่งขันหาคนงานของบริษัท Swizzell’s Matlow ครั้งแรกที่ Harry สำรวจโรงงานวันแรกที่เข้าทำงานเค้ารู้สึกเหมือนกับอยู่ในหนังสือชื่อ Charlei and The Chocolate Factory เค้าทำให้คณะกรรมการประทับใจโดยการอธิบายรสชาดและกลิ่นของหวานที่เค้าชอบ นั่นคือ อมยิ้ม บริษัท Derby ยังผลิต ลูกอมรูปหัวใจ สายรุ้ง และยังได้ให้บัตรธุรกิจแต่หัวหน้าทดสอบรุ่นเยาว์คนนี้รวมทั้งทดสอบลูกอม และยังร่วมวิจารรณ์การพัฒนาโรงงานที่ New Mills ที่เมือง Derbyshire ด้วย
7.Condom tester คนทดสอบถุงยางอนามัย
ฝ่าย การตลาดของบริษัทดูเร็ก ประกาศรับสมัครคนทดสอบถุงยางอนามัย อันเป็นอาชีพที่หนุ่มๆหลายๆคนอยากได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานนี้ คุณสมบัติคือ อายุ 18 ปีขึ้นไป ตำแหน่งที่รับ 200 ตำแหน่งทีเดียว แต่โชคไม่ดีตำแหน่งนี้ไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ผู้ได้รับคัดเลือกบริษัทจะมอบผลิตภัณฑ์ดูเร็กมูลค่า 60 $ เป็นการตอบแทน และเมื่อใช้ถุงยางแล้วต้องแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรง มา ผู้โชคดี 1 ใน 200 ท่านจะได้รับเงิน 1,000$เป็นโบนัส งานนี้สามารถนำกลับไปทำที่บ้านได้ กลายเป็น work at home ซะงั้น ^_^
8. World of Warcraft Tester นักสอบเกมส์สงครามอวกาศ
คุณ เคยเล่นเกมส์สงครามอวกาศไม๊ ถ้าเคยเล่นแล้วเล่นได้เก่งด้วย ก็มาสมัครงานนี้เลย นักทสอสอบเกมส์ ตอนนี้เค้ากำลังรับสมัครอยู่ เค้ารับคนต่างชาติด้วยนะ ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เค้าไม่จำกัด ลองดูสิ แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องเล่นเกมส์นี้อย่างต่ำ 4 ชม.ต่อ 1 วัน คนที่เล่นเกมส์แล้วติดหน่ะ คิดว่า 4 ชม เป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลยใช่ไหมคะ
9.Director of Fun at a museum (age 6) ผู้อำนวยการแห่งความสนุกที่พิพิธภัณธ์สวนสนุก
เด็ก ชายอายุ 6 ปีได้กลายเป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณธ์รถไฟแห่งชาติของนครนิวเยอร์คไปแล้ว ตำแหน่งคือ ผู้อำนวยการความสนุก เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Sam Pointon เข้ามาแทนตำแหน่ง Andrew Scott ที่เกษียณไป เด็กชาย Sam เขียนใบสมัครด้วยลายมือของเค้าเองจ่าหัวกระดาษว่า ขอสมัครตำแหน่งผู้อำนวยการ เค้าได้เขียนรายชื่อบุคคลที่อ้างอิง รวมทั้งกล่าวว่าเค้าเป็นผู้เชียวชาญในเรื่องรถไฟฟ้าย่อส่วน (train set) เค้าบอกว่า เค้ามีรถไฟฟ้าย่อส่วนและก็ควบคุมมันได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ประทับใจกับจดหมายมาก และได้รับ sam เข้าทำงานในตำแหน่ง ผู้อำนวยการแห่งความสนุก
10. Bike rider-photographer for Google Maps นักปั่นจักรยานและถ่ายรูป สำหรับ Google Maps
บริษัท google ได้จ้างหนุ่มน้อย 2 คน เพื่อจะขับจักรยาน3 ล้อไปรอบๆประเทศฝรั่งเศส ถ่ายภาพสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันเป็นที่รถยนต์เข้าไปไม่ถึง นักขับรถ 3 ล้อทั้งสองคนจะนำกล้อง 9 ตัวติดตัวไปพร้อม กับ GPS คอมพิวเตอร์ และก็เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ด้วย เค้าต้องถ่ายภาพ 3 มิติ สำหรับ google’s Street View Maps นักขับสามล้อจะสวมเสื้อยืนที่มี logo Google บนหน้าอก และก็สวมหมวกสีขาว ตระเวนไปสถานที่สำคัญๆของฝรั่งเศส
ที่มา
- http://www.oddee.com/item_96855.aspx
- http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8539964/F8539964.html
Monday, November 16, 2009
10 อันดับ สุดยอดมหันตภัยล้างโลก
ช่วงนี้กระแสของมหันตภัยทำลายโลกปี 2012 กำลังมาแรง เลยนำมาให้ดูกันว่า 10 อันดับ สุดยอดมหันตภัยล้างโลก มีอะไรกันบ้าง
อันดับ 10 : น้ำตก (RAGING WATER)
แม้มันจะรั้งท้ายแต่ความยิ่งใหญ่ของน้ำและหน้าผาสูง ชันอาจ ข่มขวัญคุณได้ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำมันบอกความน่าสะพรึงกลัวของน้ำตก เราหลีกห่างมันได้ถ้าเราไม่อยากเข้าใกล้แต่วิธีที่เยี่ยมกว่าคือ ลองเข้าไปใกล้ไปสัมผัสพลังมหาศาลความยิ่งใหญ่ของสายน้ำจากทั่วโลกมี อยู่ 4 แห่งที่น้ำตกขึ้นชื่อว่าสุดยอด น้ำตกไนแองการ่า, น้ำตกวิกตอเรีย, น้ำตกอิกวาซู และน้ำตกแอนเจิล แหล่งที่สุดทั้งการผจญภัยแบบ สูงเสียดฟ้าทั้งงดงาม ทั้งน่ากลัว ทั้งใหญ่ยักษ์อยู่ในที่เดียว
อันดับ 9 : น้ำพุร้อน (GUSHING GEYSERS)
บน พื้นพิภพมีบางสิ่งกำลังปะทุขึ้นร้อนขึ้นอีก และพุ่งสู่เบื้องบนแทน ด้วยชื่อ..น้ำพุร้อนความร้อนอาจหลอมละลายทุกอย่าง แต่พลังเกรี้ยวกราด เรายังพอเข้าใกล้ได้เป็นเรื่องแปลกที่ปฏิกิริยาของเปลือกโลก และความร้อนไม่ทำให้พวกเรากลัวแต่อย่างใดบ่อน้ำพุร้อนที่ทะเลสาบโบโกเรีย น้ำพุร้อนอีกนับร้อยในไอซแลนด์นิวซีแลนด์กับบ่อน้ำพุก็คู่กัน และแหล่งน้ำพุร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่นี่อุทยานแห่งชาติเยลโล่สโตนบ่อน้ำ ร้อนนับ หมื่นแห่งกับภาพการพุ่งขึ้นของน้ำพุร้อนขนาดมหึมา " โอลด์ เฟธฟูล "คอยชักชวนให้นักท่องเที่ยวต่างถวิลหาและอยากเข้าไปสัมผัสอยู่เนืองๆ
อันดับ 8 : ฟ้าผ่า (LIGHTNING STRIKES)
หนี ห่างจากต้นไม้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะต่อไปนี้ของเราเกี่ยวกับ สายฟ้าฟาดที่เร็ว และเฉียบพลันจนคุณไม่ทันตั้งตัวเสียงเปรี้ยง ปร้างยามฝนตก คือ อันตรายที่อย่าเข้าใกล้ สนามไฟฟ้าขนาดใหญ่จากก้อนเมฆและน้ำ เมื่อปะทะกับอุณหภูมิเบื้องล่าง สายฟ้าฟาดก็แผด เปรี้ยงลงมามันไม่เคยปรานีใคร เพราะฉะนั้นอยู่ห่างจาก ต้นไม้ต่อไปนี้เอาไว้ ต้นซีควอย่า, ต้นสน, ต้นเอล์ม, ต้นโอ๊ค, ต้นแอชไม่งั้นอาจทำให้คุณ ตายเอาง่ายๆ
อันดับ 7 : ไฟป่า (WILD FIRE)
นี่คือ ความรุนแรงอันดับ 7 ไฟป่าเพลิงพิโรธที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี แม้มันจะเกิดจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์อยู่บ้าง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นเรา ก็ไม่สามารถควบคุมได้ในทุกปีไฟป่าเกิดขึ้นนับหมื่นนับแสนครั้งจากทั่วโลก มันลุกลามเกินการควบคุมที่สหรัฐฯ ทุกหน้าร้อนเหมือนส่งสัญญาณ ว่าไฟป่ากำลังจะมา ทุ่งหญ้าแพร์รี่หรือแม้แต่บึงเอเวอร์ เกด สภาพอากาศกิ่งไม้ต้นไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงช่วยไฟป่าให้โหมกระหน่ำจนยาก ที่จะหยุด ยั้งไม่ว่าจะเกิดจากอะไรก็ตาม..ธรรมชาติ หรือฝีมือมนุษย์ไฟป่าก็นำความหายนะมาเยือนทุกครั้ง
อันดับ 6 : ฝน (DOWNPOUR)
พลังของน้ำบ่อย ครั้งได้คร่าชีวิตคนให้ตายภายในคราวเดียวฝนตกแบบฟ้ารั่ว การตัดไม้ทำลายป่า น้ำท่วมจนล้นตลิ่งส่วนหนึ่งคืออุทกภัยที่สร้าง ความเสียหายอย่าง ประเมินค่ามิได้น้ำหลากท่วมแม่น้ำโดยเฉพาะ แม่น้ำไนล์, มิสซิสแม่น้ำเหลือง, แม่น้ำคงคาเพราะทุกอย่างเกิดจากความ มักง่ายของมนุษย์ ซึ่งผลที่ได้คือความเสียหายย่อยยับทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมหาศาล
อันดับ 5 : หิมะถล่ม (AVALANCHE)
เกล็ด หิมะสีขาวๆ ถ้ารวมกันเป็นก้อน และถล่มลงมาคุณลองคิดสิว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป โอกาสรอดคงยาก หรือมีแค่เพียง 0.01% เพราะทั้ง ความหนาว แรงกระแทกมหาศาล มันจะปิดบังคุณซะมิดจนหายใจไม่ออกพลังระเบิดของมันทลายบ้านทั้งหลังได้สบาย มาก พื้นที่ที่มีลานน้ำแข็ง หรือหิมะปกคลุมจัดว่าเป็นพื้นที่อ่อนไหว แรงสะเทือนจากแผ่นดินไหว หรือนักสกีช่วยทำให้มันถล่มลงมาเร็วขึ้น ตามสถิติหิมะได้คร่าชีวิตคน บน เทือกเขาร็อคกี้เทือกเขาแอนดีส เทือกเขาแอลป์ และเทือกเขาในออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์นับครั้งไม่ถ้วนและมันก็จะมีขึ้นอีกเรื่อยๆ
อันดับ 4 : คลื่นยักษ์ (GIANT WAVE)
นี่ คือคลื่นยักษ์ที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจที่สุดสึนามิ มันมาแบบเงียบเชียบและโถมเข้าใส่อย่างไม่ยั้งกับสถิติอันน่าสะพรึงกลัวของ มันจำนวนผู้เสีย ชีวิตนับหมื่นต่อผลงานเพียง 1 ครั้ง มันก่อตัวขึ้นในทะเลวิ่งมาเป็นขบวน และปะทะชายฝั่งด้วยความเร็ว และแรง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า กำแพงน้ำมหึมา ความเร็ว 680 ไมล์ต่อชั่วโมง สูงท่วมหัวเกือบ 100 ฟุตต่อให้คุณว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็ยังพ่ายแพ้ราบคาบ
อันดับ 3 : ลมพายุ (SUPER WINDS)
ยิ่ง รุนแรงมากขึ้น โอกาสที่จะรอดชีวิตก็น้อยเต็มทีอันดับ 3 พบกับพลังมหาวินาศของลม ลมพายุลูกใหญ่ที่หมุนด้วยความเร็วและแรงเหลือ กำลัง มันกวาดทรัพย์สินไปเรียบ และทิ้งลงอย่างกองขยะ พายุหมุนเขตร้อนเฮอริเคน, ใต้ฝุ่น, ไซโคลน และที่ร้ายที่สุด ทอร์นาโด พายุหมุน รูปงวงช้างที่วิ่งด้วยความเร็ว 318 ไมล์ต่อชั่วโมง เพชฌฆาตตัวจริงที่คร่าชีวิตคนและทำลายทรัพย์สินให้แหลกเป็นจุณในพริบตา
อันดับ 2 : แผ่นดินไหว (EARTHQUAKES)
แผ่น ดินสะเทือน รอยแยกเล็กๆ บนพื้นดินใครจะรู้บ้างว่าสัญญาณเตือนภัยกำลังมา นี่คือภัยธรรมชาติที่รุนแรงเป็นที่ 2 มันสร้างความหายนะให้แก่ ทุกคนที่เจอ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในโลกนับครั้งไม่ถ้วนบางครั้งเปลือกโลกขยับน้อยๆ โดยเราไม่รู้สึก แต่ถ้าทวีความรุนแรงขึ้นมาแผ่นดินก็สั่นไหว สะท้านสะเทือนขึ้นอย่างฉับพลัน 75% ของพลังงานจากแผ่นดินไหวทั่วโลกเกิดขึ้นที่ขอบมหาสมุทรแปซิฟิกรอยเคลื่อนตัว ของเปลือกโลก ความรุนแรงที่วัดได้เกินกว่ามาตรฐานอาจทำให้มีผู้เสียชีวิต อาคารบ้านเรือนเสียหายและความพินาศที่ไม่สามารถหยุดมันได้
อันดับ 1 : ภูเขาไฟ (SUPER VOLCANO)
อันดับ 1 คือธรณีพิโรธของแท้เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร ไม่มีทางรู้ล่วงหน้ามหันตภัยธรรมชาติอันดับหนึ่งคือ ภูเขาไฟ เพลิงพิโรธ ร้อนแรงที่ระเบิดออกมาที่สุดแห่งความหายนะซึ่งเฝ้ารอเวลา ที่สุดแห่งภัยพิบัติความโหดร้ายที่ทรงพลังสุดยอดซึ่ง เป็นภัยคุกคามโลกมันก่อตัว ขึ้นจากการปะทุรุนแรงใต้พื้นพิภพ และการพุพอง ของเปลือกโลกลาวาเหลวร้อนแดงไหลได้เร็วถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ขณะที่เมฆหมอกฝุ่นควันพิษกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า อุณหภูมิสูง ลาวาเดือดผุดแก๊ซมรณะ จะทำทุกสิ่งให้ย่อยยับ ภูเขาไฟนั้น สามารถที่จะทำให้ เกิดความหายนะอื่น ๆตามที่ด้วย เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ด้วยถ้าเกิดในทะเล รวมทั้งไฟป่าด้วยนี่ยังมีภูเขาไฟที่ยังระเบิดไม่หมดอีกมาก มายมันคือหายนะทำลายล้างโลกอย่างแท้จริงเป็นความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องจำไว้ก่อนตาย
ที่มา....http://www.neutron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=1213&Itemid=3
อันดับ 10 : น้ำตก (RAGING WATER)
แม้มันจะรั้งท้ายแต่ความยิ่งใหญ่ของน้ำและหน้าผาสูง ชันอาจ ข่มขวัญคุณได้ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำมันบอกความน่าสะพรึงกลัวของน้ำตก เราหลีกห่างมันได้ถ้าเราไม่อยากเข้าใกล้แต่วิธีที่เยี่ยมกว่าคือ ลองเข้าไปใกล้ไปสัมผัสพลังมหาศาลความยิ่งใหญ่ของสายน้ำจากทั่วโลกมี อยู่ 4 แห่งที่น้ำตกขึ้นชื่อว่าสุดยอด น้ำตกไนแองการ่า, น้ำตกวิกตอเรีย, น้ำตกอิกวาซู และน้ำตกแอนเจิล แหล่งที่สุดทั้งการผจญภัยแบบ สูงเสียดฟ้าทั้งงดงาม ทั้งน่ากลัว ทั้งใหญ่ยักษ์อยู่ในที่เดียว
อันดับ 9 : น้ำพุร้อน (GUSHING GEYSERS)
บน พื้นพิภพมีบางสิ่งกำลังปะทุขึ้นร้อนขึ้นอีก และพุ่งสู่เบื้องบนแทน ด้วยชื่อ..น้ำพุร้อนความร้อนอาจหลอมละลายทุกอย่าง แต่พลังเกรี้ยวกราด เรายังพอเข้าใกล้ได้เป็นเรื่องแปลกที่ปฏิกิริยาของเปลือกโลก และความร้อนไม่ทำให้พวกเรากลัวแต่อย่างใดบ่อน้ำพุร้อนที่ทะเลสาบโบโกเรีย น้ำพุร้อนอีกนับร้อยในไอซแลนด์นิวซีแลนด์กับบ่อน้ำพุก็คู่กัน และแหล่งน้ำพุร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่นี่อุทยานแห่งชาติเยลโล่สโตนบ่อน้ำ ร้อนนับ หมื่นแห่งกับภาพการพุ่งขึ้นของน้ำพุร้อนขนาดมหึมา " โอลด์ เฟธฟูล "คอยชักชวนให้นักท่องเที่ยวต่างถวิลหาและอยากเข้าไปสัมผัสอยู่เนืองๆ
อันดับ 8 : ฟ้าผ่า (LIGHTNING STRIKES)
หนี ห่างจากต้นไม้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะต่อไปนี้ของเราเกี่ยวกับ สายฟ้าฟาดที่เร็ว และเฉียบพลันจนคุณไม่ทันตั้งตัวเสียงเปรี้ยง ปร้างยามฝนตก คือ อันตรายที่อย่าเข้าใกล้ สนามไฟฟ้าขนาดใหญ่จากก้อนเมฆและน้ำ เมื่อปะทะกับอุณหภูมิเบื้องล่าง สายฟ้าฟาดก็แผด เปรี้ยงลงมามันไม่เคยปรานีใคร เพราะฉะนั้นอยู่ห่างจาก ต้นไม้ต่อไปนี้เอาไว้ ต้นซีควอย่า, ต้นสน, ต้นเอล์ม, ต้นโอ๊ค, ต้นแอชไม่งั้นอาจทำให้คุณ ตายเอาง่ายๆ
อันดับ 7 : ไฟป่า (WILD FIRE)
นี่คือ ความรุนแรงอันดับ 7 ไฟป่าเพลิงพิโรธที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี แม้มันจะเกิดจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์อยู่บ้าง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นเรา ก็ไม่สามารถควบคุมได้ในทุกปีไฟป่าเกิดขึ้นนับหมื่นนับแสนครั้งจากทั่วโลก มันลุกลามเกินการควบคุมที่สหรัฐฯ ทุกหน้าร้อนเหมือนส่งสัญญาณ ว่าไฟป่ากำลังจะมา ทุ่งหญ้าแพร์รี่หรือแม้แต่บึงเอเวอร์ เกด สภาพอากาศกิ่งไม้ต้นไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงช่วยไฟป่าให้โหมกระหน่ำจนยาก ที่จะหยุด ยั้งไม่ว่าจะเกิดจากอะไรก็ตาม..ธรรมชาติ หรือฝีมือมนุษย์ไฟป่าก็นำความหายนะมาเยือนทุกครั้ง
อันดับ 6 : ฝน (DOWNPOUR)
พลังของน้ำบ่อย ครั้งได้คร่าชีวิตคนให้ตายภายในคราวเดียวฝนตกแบบฟ้ารั่ว การตัดไม้ทำลายป่า น้ำท่วมจนล้นตลิ่งส่วนหนึ่งคืออุทกภัยที่สร้าง ความเสียหายอย่าง ประเมินค่ามิได้น้ำหลากท่วมแม่น้ำโดยเฉพาะ แม่น้ำไนล์, มิสซิสแม่น้ำเหลือง, แม่น้ำคงคาเพราะทุกอย่างเกิดจากความ มักง่ายของมนุษย์ ซึ่งผลที่ได้คือความเสียหายย่อยยับทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมหาศาล
อันดับ 5 : หิมะถล่ม (AVALANCHE)
เกล็ด หิมะสีขาวๆ ถ้ารวมกันเป็นก้อน และถล่มลงมาคุณลองคิดสิว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป โอกาสรอดคงยาก หรือมีแค่เพียง 0.01% เพราะทั้ง ความหนาว แรงกระแทกมหาศาล มันจะปิดบังคุณซะมิดจนหายใจไม่ออกพลังระเบิดของมันทลายบ้านทั้งหลังได้สบาย มาก พื้นที่ที่มีลานน้ำแข็ง หรือหิมะปกคลุมจัดว่าเป็นพื้นที่อ่อนไหว แรงสะเทือนจากแผ่นดินไหว หรือนักสกีช่วยทำให้มันถล่มลงมาเร็วขึ้น ตามสถิติหิมะได้คร่าชีวิตคน บน เทือกเขาร็อคกี้เทือกเขาแอนดีส เทือกเขาแอลป์ และเทือกเขาในออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์นับครั้งไม่ถ้วนและมันก็จะมีขึ้นอีกเรื่อยๆ
อันดับ 4 : คลื่นยักษ์ (GIANT WAVE)
นี่ คือคลื่นยักษ์ที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจที่สุดสึนามิ มันมาแบบเงียบเชียบและโถมเข้าใส่อย่างไม่ยั้งกับสถิติอันน่าสะพรึงกลัวของ มันจำนวนผู้เสีย ชีวิตนับหมื่นต่อผลงานเพียง 1 ครั้ง มันก่อตัวขึ้นในทะเลวิ่งมาเป็นขบวน และปะทะชายฝั่งด้วยความเร็ว และแรง ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า กำแพงน้ำมหึมา ความเร็ว 680 ไมล์ต่อชั่วโมง สูงท่วมหัวเกือบ 100 ฟุตต่อให้คุณว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็ยังพ่ายแพ้ราบคาบ
อันดับ 3 : ลมพายุ (SUPER WINDS)
ยิ่ง รุนแรงมากขึ้น โอกาสที่จะรอดชีวิตก็น้อยเต็มทีอันดับ 3 พบกับพลังมหาวินาศของลม ลมพายุลูกใหญ่ที่หมุนด้วยความเร็วและแรงเหลือ กำลัง มันกวาดทรัพย์สินไปเรียบ และทิ้งลงอย่างกองขยะ พายุหมุนเขตร้อนเฮอริเคน, ใต้ฝุ่น, ไซโคลน และที่ร้ายที่สุด ทอร์นาโด พายุหมุน รูปงวงช้างที่วิ่งด้วยความเร็ว 318 ไมล์ต่อชั่วโมง เพชฌฆาตตัวจริงที่คร่าชีวิตคนและทำลายทรัพย์สินให้แหลกเป็นจุณในพริบตา
อันดับ 2 : แผ่นดินไหว (EARTHQUAKES)
แผ่น ดินสะเทือน รอยแยกเล็กๆ บนพื้นดินใครจะรู้บ้างว่าสัญญาณเตือนภัยกำลังมา นี่คือภัยธรรมชาติที่รุนแรงเป็นที่ 2 มันสร้างความหายนะให้แก่ ทุกคนที่เจอ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในโลกนับครั้งไม่ถ้วนบางครั้งเปลือกโลกขยับน้อยๆ โดยเราไม่รู้สึก แต่ถ้าทวีความรุนแรงขึ้นมาแผ่นดินก็สั่นไหว สะท้านสะเทือนขึ้นอย่างฉับพลัน 75% ของพลังงานจากแผ่นดินไหวทั่วโลกเกิดขึ้นที่ขอบมหาสมุทรแปซิฟิกรอยเคลื่อนตัว ของเปลือกโลก ความรุนแรงที่วัดได้เกินกว่ามาตรฐานอาจทำให้มีผู้เสียชีวิต อาคารบ้านเรือนเสียหายและความพินาศที่ไม่สามารถหยุดมันได้
อันดับ 1 : ภูเขาไฟ (SUPER VOLCANO)
อันดับ 1 คือธรณีพิโรธของแท้เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร ไม่มีทางรู้ล่วงหน้ามหันตภัยธรรมชาติอันดับหนึ่งคือ ภูเขาไฟ เพลิงพิโรธ ร้อนแรงที่ระเบิดออกมาที่สุดแห่งความหายนะซึ่งเฝ้ารอเวลา ที่สุดแห่งภัยพิบัติความโหดร้ายที่ทรงพลังสุดยอดซึ่ง เป็นภัยคุกคามโลกมันก่อตัว ขึ้นจากการปะทุรุนแรงใต้พื้นพิภพ และการพุพอง ของเปลือกโลกลาวาเหลวร้อนแดงไหลได้เร็วถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ขณะที่เมฆหมอกฝุ่นควันพิษกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า อุณหภูมิสูง ลาวาเดือดผุดแก๊ซมรณะ จะทำทุกสิ่งให้ย่อยยับ ภูเขาไฟนั้น สามารถที่จะทำให้ เกิดความหายนะอื่น ๆตามที่ด้วย เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ด้วยถ้าเกิดในทะเล รวมทั้งไฟป่าด้วยนี่ยังมีภูเขาไฟที่ยังระเบิดไม่หมดอีกมาก มายมันคือหายนะทำลายล้างโลกอย่างแท้จริงเป็นความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องจำไว้ก่อนตาย
ที่มา....http://www.neutron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=1213&Itemid=3
Friday, October 23, 2009
10 อันดับสุดยอดเกาะดีที่สุดในโลกประจำปี 2009
10 อันดับสุดยอดเกาะดีที่สุดในโลกประจำปี 2009
อันดับ10 เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
อันดับที่ 9 เกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 7)
อันดับที่ 8 หมู่เกาะมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์
อันดับที่ 7 หมู่เกาะเอโอเลียน ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 6 เกาะมาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกลงมาเยอะเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 3)
อันดับที่ 5 เกาะ Mount Desert ในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 4 เกาะคาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (คงเส้นคงวาเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 4)
อันดับที่ 3 เกาะเคป เบรตัน ในรัฐโนวา สโกเชีย ประเทศแคนาดา (ปีนี้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กระโดดจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 10)
อันดับที่ 2 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ (เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกมาตลอดแต่ปีนี้ไม่ได้แชมป์แต่กลับเป็น รองแชมป์แทนเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 1)
อันดับที่ 1 เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (เอเซียในบ้านเรามีสถานที่สวยงามและน่าสนใจเหมือนกัน และก็ติดอันดับโลกมาตลอดเช่นกัน ปีนี้ไต่ขึ้นเป็นแชมป์ หลังเมือปีก่อนอยู่อันดับ 2)
ที่มา - http://www.pochnews.com/news/travel/5627.htm
อันดับ10 เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
อันดับที่ 9 เกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 7)
อันดับที่ 8 หมู่เกาะมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์
อันดับที่ 7 หมู่เกาะเอโอเลียน ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 6 เกาะมาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกลงมาเยอะเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 3)
อันดับที่ 5 เกาะ Mount Desert ในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 4 เกาะคาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (คงเส้นคงวาเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 4)
อันดับที่ 3 เกาะเคป เบรตัน ในรัฐโนวา สโกเชีย ประเทศแคนาดา (ปีนี้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กระโดดจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 10)
อันดับที่ 2 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ (เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกมาตลอดแต่ปีนี้ไม่ได้แชมป์แต่กลับเป็น รองแชมป์แทนเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 1)
อันดับที่ 1 เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (เอเซียในบ้านเรามีสถานที่สวยงามและน่าสนใจเหมือนกัน และก็ติดอันดับโลกมาตลอดเช่นกัน ปีนี้ไต่ขึ้นเป็นแชมป์ หลังเมือปีก่อนอยู่อันดับ 2)
ที่มา - http://www.pochnews.com/news/travel/5627.htm
ป้ายกำกับ:
10 อันดับ,
สุดยอดเกาะดีที่สุดในโลกประจำปี 2009
Subscribe to:
Posts (Atom)